วัดนิเทศราษฎร์ประดิษฐ์ คลองสิบสาม ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกก จังหวัดปทุมธานี สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2437 โดยเจ้าไพรงามหรือสง่างาม สร้างขึ้นในที่ดินของตนเองและได้ขนานนามว่า “วัดบ้านเจ้า” ต่อมาที่ดินได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น ขุนนิเทศคอไห (แดง ทับทิมโต) ได้ร่วมกับชาวบ้านถิ่นนั้นจัดซื้อที่ดินให้เป็นกรรมสิทธิ์ของวัดให้ถูกต้อง โดยโอนกรรมสิทธิ์ให้วัดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2438 พร้อมกับเปลี่ยนนามวัดเสียใหม่เป็นวัดนิเทศน์ราษฎร์ประดิษฐ์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2439 มีเจ้าอาวาสตั้งแต่องค์แรกจนถึงปัจจุบัน 9 องค์ หลวงพ่อบุญลือ พระครูพินิจธัญโสภณ เทพเจ้าเมืองปทุมธานีฝั่งตะวันออก เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 หลวงพ่อบุญลือ พระครูพินิจธัญโสภณ (หลวงพ่อบุญลือ) นามเดิม บุญลือ ม่วงน้อยเจริญ เกิดเมื่อปี 2466 โยมมารดาชื่อหลอด โยมบิดาชื่อหนุน ม่วงน้อยเจริญ มีพี่ น้อง 4 คน หลวงพ่อบุญลือ เป็นคนสุดท้อง เป็นชาวอำเภอลำลูกกา ครอบครัวมีอาชีพทำนา ในช่วงวัยเด็กเรียนหนังสืออยู่ที่วัดชัยมังคลาราม คลองสิบสอง เมื่ออายุครบบวช ท่านได้บวชที่วัดชัยมังคลาราม ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาทั่วประเทศได้ร่ำเรียนวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บแบบโบราณและวิชาไสยศาสตร์มนตร์เขมรอยู่นานหลายปี และกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดชัยมังคลาราม ต่อมาในปี 2499 วัดนิเทศราษฎร์ประดิษฐ์ ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ชาวบ้านคลองสิบสามจึงได้นิมนต์หลวงพ่อบุญลือมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนิเทศราษฎร์ประดิษฐ์ ท่านเป็นหมอพระและเป็นที่พึ่งทางใจของชาวพุทธและชาวมุสลิมในย่านนั้น โดยการเริ่มพัฒนาด้วยการบุรณปฏิสังฆรณ์เสนาสนะภายในวัดอย่างต่อเนื่อง ครั้นถึงเทศกาลทอดกฐินจะมี
พุทธศาสนิกชนจำนวนมากขอร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคี รายได้จากการทอดกฐิน ครึ่งหนึ่งมอบให้กับโรงเรียนเทพศรินท์คลองสิบสาม ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนำมาพัฒนาวัด และยังช่วยเหลือรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บรวมทั้งที่ชาวบ้านโดนทำคุณไสยศาสตร์ต่างๆ หลวงพ่อบุญลือก็ใช้วิชาอาคมปัดเป่าถอดถอนคุณไสยเหล่านั้นออกไปจนหายเป็นปกติ ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ท่านจะไม่ใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนไปทำคุณไสยมนตร์เขมรไปทำกับคนอื่นๆ ประกอบกับทั้ง วัดนิเทศราษฎร์ประดิษฐ์ ถูกล้อมรอบไปด้วยมัสยิด 5 แห่ง แต่ด้วยบารมีของหลวงพ่อบุญลือที่ร่ำเรียนมาท่านจึงได้นำวิชาความรู้มาช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้ชาวไทยมุสลิมให้ความเคารพในตัวหลวงพ่อด้วยดีเสมอมา ในบางโอกาสที่ชาวไทยมุสลิมทำพิธีกรรมต่างๆ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ มักจะนิมนต์หลวงพ่อบุญลือไปเป็นแขกรับเชิญอยู่บ่อยครั้ง หลวงพ่อบุญลือ พระครูพินิจธัญโสภณ มรณภาพในปี 2528 สิริอายุ 63 ปี 39 พรรษา ซึ่งในพิธีบำเพ็ญกุศลศพหลวงพ่อบุญลือ ชาวบ้านมุสลิม ได้มาละหมาดให้กับหลวงพ่อจนถึงวันประชุมเพลิง สำหรับวัตถุมงคลลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงใบเสมาขนาด 3×2.5เป็นเนื้อโลหะเงิน และเนื้อโลหะทองแดง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อบุญลือ ด้านหลังของเหรียญ มีลงอักษรอักขระอยู่ใต้ห่วงแขวน นะมหาเมตตา ตรงกลางเหรียญเป็นยันต์จักรพรรดิตราธิราช ผู้ใดได้พบแล้วมิต้องกลัวยากจนเลย ด้านซ้ายมีอักษรวัดนิเทศ ด้านขวา มีอักษร พ.ศ.2517 ด้านล่าง มีอักษรพระครูพินิจธัญโสภณ พระอุปปัชฌาย์บุญลือ รองรับด้วยดอกบัว เหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นพิมพ์แตก หลังจากนั้นก็ไม่ได้สร้างเหรียญหลวงพ่อบุญลือ ออกมาอีกเลย โดยก่อนหน้านั้นได้สร้างไว้ 2 รุ่น คือรุ่นแรกไม่ปรากฏ พ.ศ. และรุ่น 2512 ในย่านพื้นที่ลำลูกกานั้นส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาและพื้นที่ป่า มีอรพิษมากมาย เช่นงูเห่า ชาวบ้านที่ออกไปทำนาทำไร่ จะห้อยเหรียญของหลวงพ่อบุญลือติดตัวไป ซึ่งมีการเล่นขานกันมาอย่างต่อเนื่องถึงความอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์จากเหรียญของท่าน เมื่อเจองูเห่ามันจะแผ่แม่เบี้ยขู่ศัตรู ชาวบ้านจะหยิบเหรียญของหลวงพ่อบุญลือชี้ไปที่งูตัวนั้นมันก็จะค่อยๆหมอบและเลื้อยคลานหนีไป เหรียญของหลวงพ่อบุญลือ แต่ละรุ่นสร้างมาน้อยมาก
เช่นรุ่นแรกไม่ประกฎ พ.ศ. เนื้อโลหะเงินและเนื้อโลหะทองแดง เพียง 200 องค์ ส่วนรุ่น 2512 สร้าง 200 องค์เช่นกันเพื่อแจกในงานทอดกฐินสามัคคีหาเงินช่วยสนับสนุนโรงเรียนเทพศิรินทร์คลองสิบสาม และรุ่น 2517 นี้ยังมีให้เช่าบูชา ติดต่อสอบถามได้ที่ พระอธิการทวีทรัพย์ สนฺตมโน เจ้าอาวาสวัดนิเทศราษฎร์ประดิษฐ์ 061 1949142
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน