พ.ต.ท.ระพิน ชาติไทย รองผู้กำกับ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ2 กองตรวจราชการ7 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นนายตำรวจน้ำดี ที่มากด้วยความรู้ความสามารถ เป็นผู้ที่เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของในหลวงรัชกาลที่ ๙ และรัชกาลที่๑๐ในเรื่องขอการ คิดดี ทำดี ประพฤติดี มาโดยตลอด ส่งผลให้ได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติ อย่างสม่ำเสมอ เช่น รางวัลราษฎร์บัณฑิต (คนดี คนเก่ง ประเทศไทย) สาขา ศิลปะและวัฒนธรรมดีเด่น เมื่อปี 2561 และจากบทบาทการต่อสู้เรื่องการกำหนดมาตรฐานพระเครื่องหลวงปู่หมุน ทุกรุ่นทุกพิมพ์ที่ผ่านมา โดยผลงานล่าสุด เรื่อง การกำหนดมาตรฐานพระผงนั่งเมฆ หลวงปู่หมุน จึงเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้ใหญ่ทั้งประเทศ ส่งผลให้ พ.ต.ท.ระพิน ชาติไทย ได้รับการแต่งตั้งเป็น เลขานุการ ประจำคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร อีกตำแหน่งหนึ่ง
และยังมีตำแหน่งสำคัญ ที่นอกเหนือจากหน้าที่ราชการอีกหลายตำแหน่ง อาทิ เลขานุการ “สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย” และประธานมูลนิธิ “ศิษย์หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล” เป็นต้น
โดยบทบาทในวงการพระเครื่อง พ.ต.ท.ระพิน ชาติไทย ถือเป็นนายตำรวจหนุ่มไฟแรง ดาวฤกษ์ดวงใหม่แห่งวงการพระเครื่อง ผู้ที่สามารถยกระดับพระเครื่องหลวงปู่หมุนที่เคยเล่นหาระดับท้องถิ่น ขึ้นสู่สากลระดับประเทศ จนติดทำเนียบเป็นพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในขณะนี้ โดยสามารถนำหลักการของกระบวนการยุติธรรมและวิชาการตำรวจ มาประยุกต์ใช้ในการกำหนดมาตรฐานพระเครื่องได้สำเร็จ จึงถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ยกระดับมาตรฐานวงการพระเครื่องไทย จนผู้ใหญ่ทั้งประเทศประจักษ์ในความสามารถ ผลักดันให้ขึ้น ดำรงตำแหน่ง “เลขานุการ สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย” คนล่าสุด
พ.ต.ท. ระพิน ชาติไทย ชื่อเล่น เอ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์ สาขา การเมืองการปกครอง จาก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบหลักสูตร “การศึกษาวิชาโททางด้านนิติศาสตร์” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นบุตรของ นายทองอยู่ ชาติไทย กับ นางสมพิศ ชาติไทย มีพี่น้อง 2 คน โดยเป็นบุตรชายคนโต และมีน้องชาย คือ พ.ต.ท. ระพี ชาติไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น รอง ผกก.ศูนย์ข้อมูลวัตถุระเบิด สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ โดย พ.ต.ท. ระพิน ชาติไทย เริ่มเข้าวงการจากการสะสมพระเครื่องหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท สืบค้นประวัติหลวงพ่อกวยจนกระจ่าง จึงไปสะดุดคำพูดของหลวงพ่อกวยที่เคยพูดกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า”ถ้าฉันไม่อยู่ให้ไปหาหลวงพ่อหมุนแทนนะ พระองค์นี้ไม่ธรรมดาหรอกโยม” จึงทำให้เริ่มหันมาศึกษาและสะสมพระเครื่องหลวงปู่หมุนจนถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลากว่า 10ปีแล้ว