ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยชมรมมวยไทยนครราชสีมา ได้จัดการประชุมวิสามัญครั้งที่ 1/2563 ณ สนามมวยค่ายสุรนารี ในวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563 โดยในที่ประชุมได้มีมติคัดเลือกประธานชมรม มวยไทยนครราชสีมาคนใหม่ คือ พันเอกบุญส่ง พรมนิล ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับ “ทิศทางมวยไทยเมืองโคราช หลังวิกฤตโควิด 19” เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินการวงการมวยไทยในพื้นที่รับผิดชอบและหาแนวทางในการแก้ปัญหาวางมาตรการป้องกันรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวงการมวยไทยนครราชสีมาอย่างมาก ทำให้ค่ายมวยในชมรมฯที่รับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นรวมไปถึงอาชีพนกมวยที่ช่วงนี้ไม่มีรายการจัดชกมวยทำให้ขาดรายได้ในการดำรงชีวิต โดยได้ร่วมกันกำหนดมาตรการของ “ชมรมมวยไทยนครราชสีมา” มาตรการรักษาความปลอดภัย โดยต้องไม่ให้เกิดความเสี่ยงใดๆ ส่งผลกระทบนำไปสู่การติดเชื้อของทั้งนักกีฬา ทีมงาน และคนดู ไม่เฉพาะแค่ในพื้นที่จัดการแข่งขัน แต่นับรวมถึงตั้งแต่การเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่สนามมวยเป็นต้น เป็นการระดมความคิด ข้อมูลจากทีมงานทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสรรค์วงการมวยไทยนครราชสีมา รวมไปถึงการวางแผนงานฟื้นฟูกีฬาวงการมวย และช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่างๆ ควบคู่กันไป
________ พันเอกบุญส่ง พรมนิล ประธานชมรมมวยไทยนครราชสีมา กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสรับตำแหน่งประธานชมรมมวยไทยนครราชสีมาคนใหม่ในวันนี้ จากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 เปรียบเสมือน “แผลสด” ที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาบ้านเรา โดยเฉพาะวงการมวย ทุกภาคส่วนต้องร่วมด้วยช่วยกัน อย่าปล่อยให้บทเรียนราคาแพงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ผ่านมาแล้วผ่านไปอย่างสูญเปล่า วิเคราะห์ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น คิดหาวิธีการแก้ไข เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจจะหวนคืนกลับมาได้อีกครั้ง และมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจนหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น “การ์ดอย่าตก…พกแมสก์ตลอด” ปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้คนจะยังคงหวาดกลัวการติดเชื้ออยู่ในระยะแรก ถึงแม้ว่าจะมีวัคซีนออกมาแล้วก็ตามธุรกิจต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูรวมถึงสนามมวย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรง นักกีฬาที่ไม่มีการแข่งขันมานานหลายเดือน ขาดการพัฒนาที่ต่อเนื่อง คนมวยต้องเปลี่ยนมุมมอง ธุรกิจมวยจะไม่ใช่แค่จัดการแข่งขันแล้วขายตั๋ว คนที่มาดูมวยด้วยความชอบจริงๆ ต้องสร้างจุดขายใหม่ๆ เปลี่ยนค่านิยม ความคิด เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ จำเป็นที่จะต้องหาช่องทางรายได้ที่หลากหลายจากส่วนอื่น เช่น การหา Sponsorship ในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น และให้ทุกคนมองมวยให้เป็นสินทรัพย์ทางปัญญา เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงของจังหวัดนครราชสีมา ในเมื่อทั่วโลกต่างให้การยอมรับศาสตร์มวยไทย สิ่งนี้จะนำพาบุคลากรที่เกี่ยวข้องจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามายังจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเรียนรู้ ช่วยต่อยอดสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น ยิมหรือสถานฝึกสอนต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้เติบโตช่วยกระตุ่นเศรษฐกิจในพื้นที่และจังหวัดรวมไปถึงระดับประเทศต่อไปในอนาคต
ภาพ/ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)