วันนี้ (26 ส.ค.) นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนาตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความเห็นทางการเมืองระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจของพล.อ.ประยุธท์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการใช้ม.44 พักงาน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. โดยระบุว่า “พอเถอะ มาตรา 44”
ผมไม่เห็นด้วยกับการที่หัวหน้า คสช. ออกคำสั่งที่ 50/2559 ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ถึงแม้บุคคลทั้งสองจะมีข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดแต่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวขัดต่อหลักนิติธรรม กล่าวคือ (1) กระบวนการได้มาซึ่งอำนาจไม่ชอบ เพราะได้มาจากการยึดอำนาจ (2) ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจ อีกทั้งผู้ใช้อำนาจไม่ต้องรับผิดชอบเพราะมีมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญนิรโทษกรรมล่วงหน้าไว้จึงไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกใช้อำนาจ (3) ไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะการที่ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว อำนาจทั้งหลายที่มาจากเผด็จการสมควรจะถูกยกเลิกทั้งหมด (4) ประเทศไทยมีกฎหมายที่ใช้บังคับกับกรณีดังกล่าวอยู่แล้ว จึงควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนยุติธรรมปกติ การใช้อำนาจพิเศษที่นอกจากจะขัดต่อหลักนิติธรรมแล้ว ยังเป็นการวางรากฐานที่ผิดให้กับรัฐบาลหน้าที่ไม่มีอำนาจดังกล่าว หากเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีข้อบกพร่องก็ควรแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ใช้บังคับอย่างเสมอภาค
การใช้อำนาจจะต้องอยู่บนหลักนิติธรรม จึงจะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายรวมทั้งฝ่ายที่ถูกลงโทษตามกฎหมายนั้นด้วย หาไม่แล้วการลงโทษดังกล่าวจะไม่สร้างการยอมรับเพราะขาดหัวใจสำคัญคือ ความชอบธรรม (legitimacy) และหลักนิติธรรม (rule of law) ถึงแม้บุคคลทั้งสองจะเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของผมและพรรคเพื่อไทย แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจพิเศษดังกล่าว ผมจึงขอประณามและขอเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้อำนาจที่ขัดต่อหลักนิติธรรม ได้แก่ บรรดาประกาศหรือคำสั่งของ คสช. การใช้อำนาจตามมาตรา 44 และการเอาพลเรือนขึ้นศาลทหาร ขอให้ปฏิบัติกับทุกฝ่ายให้เป็นไปตามกระบวนยุติธรรมปกติบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม
ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านพูด แต่สิทธิของท่านในอันที่จะพูดนั้น ข้าพเจ้าขอปกป้องไว้ด้วยชีวิต (I disapprove of what you say, but I will defend to the death your right to say it) / Evelyn Beatrice Hall/ “The Friends of Voltaire” (1906)