เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลำหนึ่งยิงเตือนเข้าใส่เรือเร็วโจมตีของอิหร่านที่มุ่งเข้าหาเรือ 2 ลำของอเมริกา บริเวณทางเหนือของอ่าวเปอร์เซียเมื่อวันพุธ (24 ส.ค.) จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ รายหนึ่งในวันพฤหัสบดี (25 ส.ค.)
เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามรายนี้เผยว่า เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ใช้ปืนคาลิเบอร์ .50 ยิงเตือนออกไป 3 นัด หลังการเตือนด้วยพลุไฟไม่ได้ผล
ในช่วงต้นของเหตุการณ์มีเรืออิหร่านเกี่ยวข้อง 3 ลำ แต่ในตอนที่มีการยิงเตือนออกไปนั้นเหลือเรือของอิหร่านเพียงลำเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ พร้อมเผยว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งเรือของอิหร่านแล่นเข้ามาใกล้เรือของสหรัฐฯ แค่ 200 หลา (ราว 193 เมตร)
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (24 ส.ค.) สหรัฐฯ เพิ่งรายงานเหตุการณ์อีกหนึ่งเหตุการณ์ เป็นกรณีที่พวกเขาอ้างว่ากำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ได้รังควานเรือรบของอเมริกาใกล้ช่องแคบฮอร์มุซในช่วงต้นสัปดาห์
เหตุการณ์ตึงเครียดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของวอชิงตันเกี่ยวกับท่าทีของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียและในสงครามซีเรีย
เจ้าหน้าที่ผู้ขอไม่เปิดเผยนามระบุว่า มีเรือของอิหร่าน 2 ลำแล่นเข้ามาในระยะ 300 หลาของเรือ “ยูเอสเอส นิตเซ” ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัยและไม่มีความเป็นมืออาชีพ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ ระบุถึงเหตุการณ์เมื่อวันอังคารว่า เรือของอเมริกาพยายามสื่อสารกับเรืออิหร่านถึง 12 ครั้ง แต่ไม่มีการตอบกลับมา จึงมีการยิงพลุไฟ 10 ลูกไปทางเรืออิหร่านทั้งสองลำ
“พวกอิหร่านเข้ามาใกล้มาก ก่อให้เกิดสถานการณ์ที่อันตรายที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงมาตรการป้องกันตัวของนิตเซ” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่า เรือนิตเซต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อรักษาระยะห่างกับเรืออิหร่าน