แหล่งข่าวแจ้งว่าที่บ้านชำโสม ม.10 ต.กบินทร์อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีพบครอบครัวครอบครัวหนึ่งตกอยู่ในช่วงวิกฤตบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ตนเองตกงานหลัง
เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 จึงเดินทางไปยังบ้านชำโสมสอบถามหาครอบครัวดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงบ้านชำโสมได้พบกับนายเอนก หงษ์กสินธุ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.10 ต.กบินทร์บุรีอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
นายเอนก กล่าวว่า ตนอยู่กินกับนางนิตยา นาคพันธ์ อายุ 35 ปี มีลูกด้วยกัน 3คน คนโตชื่อน้องพงษ์ อายุ 13 ปี ดญ.พร อายุ 8 ปี ดช.ชัย อายุ 5 ปีนายเอนกกล่าวว่าเมื่อก่อนตนเองทำงานรับจ้างทั่วไปมีรายได้วันละ 300 บาทเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้
ทำงานครอบครัวไม่มีรายได้จึงกินตามมีตามเกิดอิ่มบ้างอดบ้างไปวันๆ ภรรยาป่วยเป็นโรคตับ สุขภาพไม่แข็งแรงทำงานหนักไม่ได้ต้องอยู่บ้านดูแลลูก บ้านที่อยู่เมื่อก่อนมีไฟฟ้าใช้เพราะพ่วงไฟจะบ้านติดกันมาใช้ในครอบครัวซึ่งต้องจ่ายค่าไฟฟ้าตกเดือนละ 100-300บาท ซึ่งไม่มีเงินจ่ายค่าไฟตามจำนวนที่ต้องจ่ายจึงถูกตัดไฟฟ้าออก จึงไม่มีไฟฟ้าใช้กลางคืนต้องใช้เทียนจุดเพื่อให้ได้มีแสงสว่างในตอนกลางคืน หุงข้าวก็ใช้เตาฟืนแทนถ่านตัวบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวใช้ฟ้ายาง ผ้าห่มปิดบังแทนฝาบ้านเป็นห้องโล่งบางครั้งเคยไม่มข้าวสารหุงต้องขอบ้านพ่อมาหุงให้ลูกกินประทังชีวิต ครั้งหนึ่งข้าวจะหมดต้องแบ่งมาหุงต้มเป็นข้าวต้มใส่เกลือให้ลูกพอได้กิน เลื่อนวันออกไปอีกหลายวัน หมดแล้วก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาให้ลูกๆกินบ้านไม่ได้ดีนักฝนตกฝนก็สาดต้องทนเอา อยากมีงานทำเพื่อจะได้เงืนซื้อข้าวให้ลูกเมียกินช่วงนี้มีสงสารนำข้าวมาให้ 2 ถุงน้ำดื่ม ปลากระป๋องและมอบให้นิดหน่อยนำไปซื้อซี่โครงไก่มาต้มให้ลูกๆได้กินดีๆบ้าง
เสื้อผ้าเก่าๆ ตอนนี้โรงเรียนใกล้เปิดเทอมแล้วจะหาเงินที่ไหนให้ลูกำแโรงเรียน หากใครต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้ติดต่อนายเอนก หงษ์กสินธุ์ หมายเลขโทรศัพท์095-624-6210 นายเอนกบอกว่าอยากมีไฟฟ้าให้ลูกได้ใช้แสงสว่างตอนกลางคืน…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์
ลักขณา สีนายกอง/รายงาน