สืบเนื่องเมื่อวันที่ ( 22 มิ.ย.63 ) ที่ผ่านมานายวัชระ เพชรทอง อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางนำหนังสือไปยื่นถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณี “ให้ดำเนินคดีกับพนักงานอัยการคณะทำงานรองอัยการสูงสุดกับพวก” ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามกฎหมายอาญา ม.157 และเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษหรือให้รับโทษน้อยลงตามกฎหมายอาญา ม. 200 จากกรณีที่มีความเห็นไม่อุทธรณ์ต่อศาลสูงคดีนายพานทองแท้ ชินวัตร ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
นายวัชระฯ ชี้ว่าศาลตัดสินยกฟ้อง แต่มีผู้ พิพากษา ที่เป็น หัวหน้าคณะ ได้ทำความเห็นแย้งไว้โดยให้ลงโทษจำคุก “นายพานทองแท้ฯ” 4 ปี และ คณะทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ. มีมติว่าให้อุทธรณ์คดีต่อทางอัยการจะต้องอุทธรณ์คดีต่อศาลสูงเพื่อวินิจฉัยให้สิ้นกระแสความสงสัยต่อสาธารณชน แต่คดีนี้อัยการกลับมีความเห็นว่า ไม่อุทธรณ์คดี ต่อจึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ขัดกับดุลพินิจที่สั่งฟ้องในตอนเริ่มคดี เพราะตอนเริ่มคดีพนักงานอัยการต้องเห็นว่าจำเลยมีความผิดจริง จึงฟ้องคดี การที่มีความเห็นไม่อุทธรณ์ต่อ และ ให้ความเห็นว่าเห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาล แสดงให้เห็นว่าอัยการรู้อยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีความผิด แต่ใช้ดุลพินิจสั่งฟ้องกลั่นแกล้งจำเลยเพื่อให้ได้รับโทษทางอาญาหรือไม่ การใช้ดุลพินิจที่ขัดกันในการสั่งคดีเดียวกัน ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและประชาชน ไม่ได้ตั้งอยู่บนรากฐานของความสมเหตุสมผล และ ไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติของอัยการ
นายวัชระฯ ยังได้แนบ ฎีกา คดีต่างๆในการใช้ดุลพินิจของอัยการที่ไม่อุทธรณ์หรือไม่ฎีกาสำหรับการดำเนินคดีกับตระกูลชินวัตร ที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการดำเนินคดีกับประชาชนทั่วไป ซึ่งมีหลายคดีที่ควรจะจบและถึงที่สุดไปตั้งแต่ในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์แล้ว แต่อัยการกลับยื่นฎีกา ทั้งที่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ส่วนการดำเนินคดีกับบุคคลใน “ตระกูลชินวัตร” ซึ่งเป็นความผิดต่อแผ่นดินโดยมีราชการเป็นผู้เสียหายและการฎีกาคดีตระกูลชินวัตรจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่พนักงานอัยการจะทำให้คดีถึงที่สุดเพียงแค่ชั้นอุทธรณ์เท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. สามารถไต่สวนตรวจสอบการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดีของอัยการในคดีทั่วไปของประชาชน เพื่อใช้เปรียบเทียบกับการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดีของอัยการในคดีของตระกูลชินวัตร ก็จะเห็นถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายในการสั่งคดีของอัยการได้ การกระทำของอัยการเปรียบเสมือนกับการตัดตอนความยุติธรรมมิให้นำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลสูง ซึ่งมิอาจยอมรับได้ จึงต้องยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.วินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป..
#ข่าวการเมือง
#วัชระ_เพชรทอง #ยื่น
#ปปช. #ฟัน #อัยการ
#สั่งไม่อุทธรณ์
#คดีโอ๊คฟอกเงิน
——————–