เมื่อเวลา 18.50 น.วันนี้ 16 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงาน พบมีการโพสต์ – แชร์ในเพจของผู้ใช้ชื่อ นายวสันต์ วณิชชากร หรือ ช่างภาพบ้านนอก ได้โพสต์ภาพเด็กชายวัย 5 ขวบ มารับของกิน –ของเล่น และข้อความ ระบุว่า
… ผมแอบมองน้องคนนี้มาหลายวันแล้ว น้องและแม่เพิ่งจะรู้ข่าวว่าที่นี่มีตู้ปันสุขเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
…น้องชื่อแมนยู จะสังเกตเห็นว่าที่ตามตัวน้องเค้ามีรอยไฟไหม้ คุณแม่น้องเล่าว่า เมื่อตอนประมาณหนึ่งขวบ ไฟไหม้บ้าน น้องแมนยูนอนอยู่กับตาที่เป็นอัมพาต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
…ไฟไหม้ครั้งนั้น คุณตาเสียชีวิต แต่น้องแมนยูถูกเพื่อนบ้านช่วยออกมาได้ แต่ต้องนอนโรงพยาบาลกว่าสามเดือนโดยใช้เครื่องช่วยหายใจ เพราะน้องดมควันและปอดถูกทำลายไปมาก สุดท้ายเหมือนมีปาฎิหาริย์ ในวันที่ทุกคนตัดสินใจว่าจะเอาเครื่องออกซิเจนออกเพื่อให้น้องไปสบาย
…น้องแมนยูหายใจขึ้นมาเองหลังจากเอาเครื่องออกซิเจนออกได้ไม่นาน แต่บาดแผลจากไฟไหม้ลึกผิวหนังตามร่างกายหลายแห่งยังคงต้องรักษาจนถึงปัจจุบัน
…แม่น้องซึ่งอนุญาตให้เรานำเรื่องและรูปออกมาเปิดเผย ซึ่งบอกว่ามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ตั้งแต่โควิดมาก็ไม่มีงานทำ ตัวเองมีลูก 4 คน น้องแมนยูเป็นคนสุดท้อง สามีเลิกรากันไปนานแล้ว สงสารลูกเวลาหิว พอรู้ข่าวว่าที่นี้มีตู้ปันสุขก็เลยมาที่ตู้นี้ทุกวัน และยังไม่รู้ข่าวว่าตู้เราจะปิดแล้ว
…ผมเห็นครอบครัวนี้หลายครั้ง การมายืนเข้าคิวรอรับของในแต่ละครั้งไม่เคยละเมิดกฎและปฏิบัติตัวดีน่ารัก แม้จะมากันหลายคน พี่สาวพี่ชายก็คอยดูแลน้องแมนยูอย่างดี น้องเดินไม่ถนัดก็ช่วยอุ้มน้อง
…น้องแมนยูจะเป็นที่รักของน้องๆ ในทีมปันสุข น้องจะได้ขนม ของกินของเล่นกลับไปทุกครั้ง จากสีหน้ารอยยิ้มที่ไม่มีเลยในวันแรกๆ ที่พวกเราเจอ จนเราแอบอยากรู้เรื่องราวของน้องเขา
…คุณแม่บอกว่าถ้าหมดโควิดนี้น้องแมนยูจะได้เข้าเรียนอนุบาลที่ประจันตคาม
…วันนี้เราได้เห็นรอยยิ้มและความร่าเริงนั้นบ้างแล้วที่หน้าตู้ปันสุข และเรายังอยากให้น้องแมนยูมีรอยยิ้มแบบนี้นานๆ
…ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวหนึ่งที่เราแอบจดประวัติไว้เพื่อเยียวยาต่อไปหลังจากตู้ใบนี้ปิดตัวลง
…สำหรับเงินที่เหลือหลังจากการปิดตู้จะมีการนำมาดูแลเคสที่พวกเราเห็นว่าควรเยียวยาต่อไป เรากำลังทำการเก็บข้อมูลในทุกๆ วัน โดยจะเน้นเคสผู้สูงอายุที่ขาดผู้ดูแล เคสเด็กน้อยๆ ที่พ่อแม่ยังตกงาน และเคสที่มองเห็นแล้วว่าลำบากจริงๆ เราจะเยียวยาไปจนกว่าพวกเขาจะดีขึ้นหรือเงินเราที่มีจะหมดลงไป บางเคสมีผู้รับอาสาดูแลต่อจากพวกเราก็มีบ้างแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปยังหน้าร้านวิวพ้อยเอกซเพรส ริมถนนศิวะบูลย์ ในตลาดประจันตคาม เทศบาลตำบลประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี พบ นายวสันต์ วณิชชากรอายุ 49 ปี พร้อมครอบครัว กำลังเตรียมแจกจ่าย-แบ่งปัน อาหาร ,ผลไม้,ข้าวสาร ,ของใช้ ให้กับประชาชนกว่า 50 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ตู้ปันสุขที่ตั้งไว้หน้าบ้าน โดยมีผู้ใจบุญนำอาหารกล่อง ,อาหารมาร่วมอีกหลายราย
พร้อมกับได้พบนางสาวเกษ กิจจาวงศ์อายุ 27 ปี บ้านเกาะพันซา เลขที่ 6 หมู่ 6 ต. หนองแก้วอ. ประจันตคาม จ. ปราจีนบุรี พร้อมลูก 3 คน คือ ด.ช. กวีพัฒ กิจวงษ์ อายุ11 ปี, ด.ญ. ศิริลักษณ์ กิจวงษ์ อายุ 10 ปีและ ด.ช พิเชษฐ์ หรือน้องแมนยู สิงหนาม 4 ปี โดยขับมอเตอร์ไซค์สภาพเก่าสีแดงซ้อนกันมาทั้งหมด 4 คน
นายวสันต์ กล่าวว่า “จากภาวะโรคโควิด-19 ตนเองพร้อมครอบครัวได้ตั้งตู้ปัญสุข หน้าร้านถ่ายรูปตนเองตลาดสดประจันตคาม หน้าบ้าน แบ่งปันให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน ก็มีคนเอาอาหารมาใส่ตู้ปันสุข มีขนมจีน น้ำยา มีขนมกรอบ มีไข่ไก่ ของเล่น ตุ๊กตา มาม่า ข้าวสาร ข้าวกล่องไข่เจียว มาแจกจ่ายมาได้นานกว่า 1เดือนแล้ว ทุก ๆ วัน
ตอนเช้าเริ่ม 9.00 น ตอนเย็น 17.00 น ทั้งนี้เน้นก่อนรับแบ่งปัน จะให้บริการเจลล้างมือ ลการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย
และในวันนี้ ( 16 มิ.ย.) หลังเผยแพร่เรื่องราวของน้องแมนยู หรือเด็กชายพิเชษฐ์ สิงหนามอายุ 4 ปี นร.อยู่อนุบาล 3 ถูกไฟไหม้ เป็นแผลเป็น บริเวณแขน ขา ใบหน้า ซึ่งปู่ได้เข้าไปช่วยออกจากกองเพลิง และปู่เสียชีวิต ครองครัวยากจน หลังจากลง Facebook Lite แล้วมีผู้ มาบริจาค 5,900 บาท ได้มองต่อให้”นายวสันต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากนั้นได้ติดตามไปที่บ้านพักน้องแมนยู เป็นบ้านเทพื้นปูนชั้นเดียวปลูกติดดิน ไม่มีประตู-หน้าต่าง ใช้สังกะสีตีล้อม หลังคาผุพัง
ขณะที่ นางสาวเกษ กิจจาวงศ์อายุ 27 ปี พร้อมมารดา กล่าวว่า “ครอบครัวตนเองยากจน ก่อนหน้ามีสามีอยู่ จ.สระแก้ว ปลูกกระท่อม ภายหลังหย่าร้างกับสามี จึงมาอยู่กับแม่ที่ บ้านเกาะพันซา น้องแมนยูอยู่กับพ่อและปู่ที่ จ.สระแก้ว ในวันเกิดเหตุเพลิงไหม้กระท่อมที่ต่อสายไฟฟ้าพ่วงบ้านคนอื่นไฟลุกไหม้ มีเพียงน้องแมนยูกับปู่ทีเป็นอัมพาต ปู่แม้เป็นอัมพาตได้พยายามช่วยน้องแมนยูออกมาจากกองไฟ จนตนเองเสียชีวิต น้องแมนยูบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว” นางสาวเกษ กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า “หลังเกิดเหตุตนได้นำลูก ๆ มาอยู่ที่บ้านเกาะพันซา แต่ฐานะยากจน ซ้ำร้ายที่อยู่ยังติดจำนอง แม่ต้องทำงานรับจ้างเพื่อผ่อนใช้หนี้วันละ 100บาท ส่วนตนเองตกงานในภาวะโควิด-19 จึงต้องไปรับอาหาร ,ขนม พร้อมลูก ๆ ทั้ง 4 คน ที่ตู้ปันสุขหน้าร้านวิวพ้อยเอกเพรสทุกวัน จยมีการแชร์เรื่องราวดังกล่าว ขอขอบคุณผู้ที่เมตตาบางปันหยับยื่นให้ความช่วยเหลือให้คลายทุกข์ดังกล่าว”นางสาวเกษ กล่าว
ด้านนายพิษณุ เจริญศิลป์ อายุ 52ปี ผญบ.เกาะพันซา กล่าวว่า “ สำหรับครอบครัวนางสาวเกษ กิจจาวงศ์อายุ 27 ปี เพิ่งมาอยู่ในหมู่บ้าน โดยมาปลูกบ้านข้างนางสุพรรณ กิจจาวงศ์อายุ 59 ปี มารดา น.ส.เกษ มีบุตรหลายคน( 13 คน )ฐานะยากจน ทางท้องถิ่นได้สร้างบ้านเอื้ออาทรให้มารดา แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือน้องแมนยูสามารถติดต่อ หรือสอบถามที่ตนเองได้เบอร์โทร. 061 529 9047 ”นายพิษณุ กล่าว…
ที่มา:วสันต์ วณิชชากร
ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์
ลักขณา สีนายกอง