วันที่ 4 มิ.ย.63 เวลา 10.00 น.ที่ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ : นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาลคนดังผู้รับมอบอำนาจ จาก นาย ซู่ เว่ย นักธุรกิจชาวจีน อายุ 38 ปี (ผู้เสียหาย)ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อขอให้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมแจ้งข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบพิจารณาคดี “ขบวนการไฮโซสาว-หนุ่ม” ร่วมกันฉ้อโกง หรือฉายา “สวย รวย แซบ”
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ว่า “ขบวนการไฮโซสาว-หนุ่ม” ที่ร่วมกันฉ้อโกงนักธุรกิจชาวจีน โดยแอบอ้างว่าสามารถติดต่อกับบุคคล มีชื่อเสียงทั้งนักการเมืองระดับรัฐมนตรี,เชื้อพระวงศ์ และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง เพื่อดำเนินการพิธีการศุลกากร นำสินค้าออกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่เป็นความจริง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายต้องมาแจ้งความรู้องกข์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้
เนื่องจากพบว่า นอกจากจะหลอกหลวงว่าสามารถเคลียร์นำเข้าสินค้าผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด19 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้นายซู่เว่ยฯ สูญเงินนับล้านบาทแล้ว ยังพบว่า “กลุ่มไฮโซสาว-หนุม” ดังกล่าวยังเป็นบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวข้องอีกหลายคดี อาทิ คดีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น,คดีมีธนบัตรปลอม,พัวพันบ่อนการพนันขนาดใหญ่ หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นรูปแบบขบวนการผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ “ไฮโซสาว” ผู้ถูกกล่าวหา ได้ออกมาปฏิเสธพร้อมกล่าวว่าตนเอง “สวย รวย แซบ” แล้วนั้น นายสันธนะฯ ได้ยืนยันว่า “ไฮโซสาว-หนุ่ม” ร่วมกันก่อเหตุเป็นรูปแบบขบวนการพร้อมเครีอข่าย ซึ่งนอกจากความผิดข้อหาข้างตันแล้ว กลุ่ม”ไฮโซสาว-หนุ่ม” ยังได้กระทำความผิดอื่นๆ อีก ดังนั้นในวันนี้ นายสันธนะฯ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย จึงไดี้เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งแจ้งข้อมูล พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำไปประกอบการพิจารณา และดำเนินการต่อไปคือกรณี
คดีที่ 1.”ไฮโซสาว” กับเพื่อนชายคนสนิท มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี หน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น
คดีที่ 2.”ไฮโซสาว” เป็นผู้ต้องหาคดี ความผิดต่อพ.ร.บ.ศุลกากร คดีที่ 32/2563 กก.1 บก.ป. เหตุเกิดเมื่อต้นปี 2563
คดีที่ 3.”ไฮโซสาว” กับพวก เป็นผู้ต้องหาคดี มีีธนบัตรปลอมไว้เพื่อใช้และนำธนบัตรปลอม มาแลกเงิน เหตุุเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2562 ท้องที่สน.ลุมพินี
คดีที่ 4.”ไฮโชสาว” มีส่วนพัวพัน บ่อนการพนันรายใหญ่ ร่วมกับ เจ๊ งอ (นามสมมติ ) ที่ถนนสาทร 11 ท้องที่สน.ยานนาวา ที่ตึกสำเพ็งสแควร์ ถ.ราชวงศ์ ท้องที่สน.จักรวรรดิ และบ่อนไฮโซ ท้องที่สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ
คดีที่ 5″ไฮโซสาว” ร่วมกับบุคคลชื่อ “หม่อม ฟอ” (นามสมมติ) แอบอ้างชื่อหน่วยงาน “ตำรวจวัง” ข่มขู่ประชาชน
ทั้งนี้ จึงขอให้ผบ.ตร.ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่าง กลุ่ม “ไฮโชสาว-หนุ่ม” กับกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่อยู่เบื้องหลัง จากข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ของเดือนสิงหาคม 2562 อีกจำนวน 2 ฉบับ
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน