21 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 จากนครรีโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ว่า จะมีพิธีปิดอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค.ซึ่งตรงกับเช้ามืดวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.ตามเวลาของประเทศไทย ที่สนามมาราคาน่า สเตเดี้ยม โดยมี โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี เป็นประธานในพิธี
ซึ่งในพิธีปิดการแข่งขันเจ้าภาพเริ่มต้นชุดการแสดง Count Down ซึ่งใช้ภาพที่ ซานโต๊ส ดูมงต์ บิดาด้านการบินของโลก กำลังมองนาฬิกาข้อมือ เพื่อเป็นสัญญาณว่าพิธีปิดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ต่อด้วยการร้องเพลงตามแบบฉบับของชาวบราซิลเลียน ก่อนที่นักกีฬาทั้ง 206 ชาติ และทีมผู้อพยพ หรือเรฟูจี จะเดินเข้าสู่สนาม ซึ่งจะมีการร้องเพลงของ จูเลีย ไมเคิลส์ นักแต่งเพลงชื่อดัง และคีย์โก้ ดีเจชื่อดังชาวนอร์เวย์ ที่มาร่วมในการแสดง
พร้อมกันนี้มีการเปิดตัวสถานีโทรทัศน์อย่างเป็นทางการของไอโอซี นั่นคือ โอลิมปิก แชนแนล ซึ่งเป็นช่องโทรทัศน์ของไอโอซี และการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์อย่างเป็นทางการ ต่อด้วยการแสดงโชว์ชื่อ Art of the people เป็นการแสดงถึงศิลปวิทยาการของมนุษย์ตั้งแต่ยุคหลายพันปีมาจนถึงปัจจุบัน ปิดท้ายชุดนี้ด้วยการนำไฮไลท์การแข่งขันสำคัญๆ ของโอลิมปิกครั้งนี้มาฉาย
จากนั้นเป็นพิธีที่ บราซิล มอบธงเจ้าภาพครั้งต่อไปให้กับผู้แทนจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่จะเป็นเจ้าภาพในอีก 4 ปีข้างหน้า พร้อมการแสดงของ โตเกียว 2020 ปิดท้ายด้วยชุดการแสดง Cidade Maravilhosa ซึ่งเป็นการแสดงถึงขบวนคาร์นิวัล ความสนุกสนานของชาวบราซิเลียน พร้อมด้วยศิลปินชาวแซมบ้าจำนวนมาก ก่อนที่คบเพลิงจะดับลง เพื่อเป็นสัญญาณยุติการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่จัดขึ้นครั้งแรก บนแผ่นดินลาตินอเมริกา
สำหรับทัพนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมในพิธีปิด ประกอบด้วย อะแมนด้า คาร์ นักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ , บุญถึง ศรีสังข์ นักกีฬาวิ่งมาราธอน และ “ฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ นักกีฬาวิ่งมาราธอนหญิง โดย บุญถึง เป็นผู้ถือธงร่วมพิธีปิด และหลังจากนั้น นักกีฬาชุดนี้จะเดินทางกลับจากบราซิล ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายประจำการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ผลงานของทัพนักกีฬาไทยครั้งนี้ ที่ทำเหรียญรางวัลได้ทั้งสิ้น 2 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลอีกด้วย โดยสถิติการสร้างผลงานที่ดีที่สุดของไทย เกิดขึ้นในปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ที่ไทยเราได้ถึง 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง
ซึ่งเหรียญรางวัลของไทยได้มากจาก 2 เหรียญทอง จากยกน้ำหนัก 49 ก.ก.หญิง โสภิตา ธนสาร และ 56 ก.ก.หญิง สุกัญญา ศรีสุราช , 2 เหรียญเงิน จาก พิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนักรุ่น 56 ก.ก.และ เทวินทร์ หาญปราม เทควันโด รุ่น 58 ก.ก. , 2 เหรียญทองแดงจาก ยกน้ำหนักรุ่น 64 ก.ก.ชาย สินธุ์เพชร กรวยทอง และ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เทควันโดรุ่น 49 ก.ก.
ด้าน “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จะมีการหารือกันหลังจากกลับถึงเมืองไทย ถึงผลการแข่งขันทั้งที่ออกมาดีและไม่ดี เพื่อหาจุดผิดพลาดรวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ โดยเฉพาะกีฬาตัวเต็งที่พลาดเป้าอย่าง แบดมินตัน , กอล์ฟ รวมถึงเป้าบิน
“ผลงานโดยรวมถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เราสามารถได้ถึง 2 เหรียญทอง แต่ถ้าหากไม่ผิดพลาดในหลายชนิดกีฬา เราอาจจะได้มากถึง 3 – 4 เหรียญทอง ด้วยซ้ำ ส่วนโอลิมปิกเกมส์ในอีก 4 ปีข้างหน้า ยังไม่แน่จะรับตำแหน่งนี้อีกหรือไม่ เพราะอายุเริ่มมากขึ้นแล้ว คงต้องภายหลังการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยอีกครั้ง ว่าจะเป็นอย่างไร” นายธนา กล่าว