คุณเคยสงสัยหรือไม่ ว่าทำไม “พุง” หรือไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องเกิดจากอะไรและทำไมถึงไม่หายแม้ว่าคุณจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
วันนี้เราจึงมี 10 สาเหตุที่ทำให้คุณอ้วนลงพุง มานำเสนอ รู้แล้วรีบแก้ไขเพื่อหุ่นที่ดูดีของคุณ
1. กรรมพันธุ์
สังเกตได้จากคนในครอบครัว หากใครมีรูปร่างทรงแอปเปิลหรือลูกแพร์ สามารถบอกได้ว่าคุณมียีนที่ทำให้อ้วนง่าย ซึ่งไขมันก็มักจะมาสะสมอยู่ที่หน้าท้อง สะโพก ต้นขา มากกว่าที่อื่นๆ ดังนั้นคนที่ได้กรรมพันธุ์นี้ยิ่งต้องระวังเรื่องอาหารการกินของตัวเองให้ดี พร้อมทั้งหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย
2. อายุมากขึ้น
เมื่อคุณอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวของคุณก็จะมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง อัตราการเผาผลาญน้อยลง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการด้วย หากผู้หญิงมีน้ำหนักตัวเพิ่มหลังจากที่เข้าสู่ภาวะวัยหมดประจำเดือนแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าไขมันเหล่านั้นจะไปสะสมอยู่ที่หน้าท้อง เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนก็จะช้าลง ขณะเดียวกันระดับเทสโทสเตอโรนก็จะเริ่มลดต่ำในอัตราที่ช้ากว่าปกติและทำให้ผู้หญิงมีไขมันหน้าท้องนั่นเอง
3. พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิด หนึ่งในนั้นคือทำให้คุณอ้วนลงพุง เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายรวน ทั้งระดับฮอร์โมน ระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งส่งผลให้คุณอยากทานอาหารตลอดเวลา ทำให้เกิดไขมันบริเวณหน้าท้องในที่สุุด
4. โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ
โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คุณมีไขมันหน้าท้อง โดยภาวะนี้จะทำให้ผู้หญิงมีฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ส่งผลให้มีขนดก ประจำเดือนผิดปกติ เป็นสิว และอ้วนลงพุงได้ ซึ่งอาจรักษาได้ด้วยการกินยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมนเพศ รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำและควบคุมอาหารจะช่วยลดไขมันหน้าท้องไปได้
5. ความเครียด
ความเครียดจากการทำงาน เครียดจากเรื่องส่วนตัว และเครียดจากสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษ ความเครียดทั้งหมดนี้ ล้วนทำให้น้ำหนักตัวของคุณลดยากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ซึ่งตัวการหลักของเรื่องนี้ได้แก่ ไขมัน แคลอรี่ และฮอร์โมนคอร์ติซอลนั่นเอง
6. รับประทานอาหารแปรรูปมากเกินไป
กลุ่มธัญพืชแปรรูปอย่างขนมปัง แคร็กเกอร์ และมันฝรั่งทอดกรอบ รวมถึงน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในเครื่องดื่มรสหวานและขนมหวานต่างๆ จะช่วยเพิ่มการอักเสบในร่างกาย ไขมันหน้าท้องก็พอกพูนด้วย ดังนั้นการรับประทานอาหารแปรรูปมากเกินไปจะทำให้ความสามารถในการลดไขมันหน้าท้องลดลง อาหารธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ผัก และเมล็ดพืชเต็มเมล็ดจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีสรรพคุณต่อต้านการอักเสบและป้องกันการสะสมของไขมันหน้าท้อง
7. ทานไฟเบอร์ไม่เพียงพอ
การทานไฟเบอร์น้อยเกินไป นอกจากจะทำให้มีอาการท้องผูกแล้ว ยังทำให้คุณมีหน้าท้องสะสมอีกด้วย เพราะไฟเบอร์เป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ หากใครไม่อยากมีหน้าท้องให้รีบเพิ่มไฟเบอร์ให้ร่างกายด่วน
8. แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ยิ่งดื่มยิ่งอ้วนลงพุง เพราะในแต่ละแก้วที่ดื่มเข้าไปแคลอรีไม่น้อย ทำให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องมากเป็นพิเศษ จากการศึกษาพบว่า อาสาสมัครที่ดื่มเก่งจะมีรอบเอวที่หนาและมีพุงมากกว่าอาสาสมัครที่ไม่ค่อยดื่มหรือไม่ดื่มเลย ดังนั้นเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดีควรหันมาดื่มน้ำเปล่าจะดีที่สุด
9. ไขมันทรานส์
ร่างกายของคนเราไม่ได้มีปฏิกิริยากับไขมันทุกประเภทในรูปแบบเดียวกัน การรับประทานไขมันอิ่มตัว (พบได้ในเนื้อสัตว์และนม) จะทำให้ไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (พบได้ในน้ำมันมะกอกและอะโวคาโด้) กับไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนบางประเภท (เช่น โอเมก้า3 พบได้ในถั่ววอลนัท เมล็ดทานตะวัน และปลาแซลมอน) จะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย และถ้ารับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็จะมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่หากรับประทานมากเกินไปจะทำให้แคลอรี่กับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
10. ไม่ออกกำลังกาย
หลายคนที่มีปัญหาเรื่องการอ้วนลงพุงมักจะขาดการออกกำลังกาย รวมไปถึงการออกกำลังกายได้ไม่เข้มข้นพอ ดังนั้นหากต้องการลดพุงคุณควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม เท่านี้ก็สามารถบอกลาไขมันหน้าท้องได้แล้ว