วันที่ 28 พ.ค.63 เวลา 10.00 น.ที่สน.ปากคลองสาน : นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาลคนดังพานายซู เว่ย นักธุรกิจชาวจีน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ปากคลองสาน เพื่อให้ดำเนินคดีกับดาราสาวไฮโซ ชื่อย่อ น.หนู พร้อมกับพวกอีก 2 คน ฐานฉ้อโกง
จากกรณีที่นายซู เว่ย ได้นำเข้าเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น จากประเทศจีน เพื่อนำมาจำหน่ายและแจกให้กับหน่วยงานที่มีความจำเป็นในประเทศไทย แต่เนื่องจากเป็นชาวจีนทำให้ไม่ทราบวิธีการนำเข้า กรมศุลกากรจึงกักสินค้าไว้เพื่อรอการสำแดงสินค้า แต่กลับถูกไฮโซสาวและพวกเรียกเก็บค่าดำเนินการนำสินค้าออกจำนวน 2 ล้าน 5 แสนบาท
นายสันธนะฯ กล่าวว่าตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจของนายซู เว่ยฯ ระบุว่า นายซูเว่ยฯ ได้โอนเงินเข้าบัญชีของไฮโซสาวโดยตรงจำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท โดยไฮโซสาวอ้างว่าได้นำเงินดังกล่าวไปจ่ายให้กับอธิบดีกรมศุลกากร 5 แสนบาท และชายอีกคนซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหม่อม จำนวน 5 แสนบาท ที่เหลือมีหญิงสาวอีกคนซึ่งอ้างว่าทำงานในกระทรวงมหาดไทย,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมีตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกำลังจะได้เป็นเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำไปจ่ายให้กับนักการเมือง แต่สุดท้ายนายซู เว่ยฯ กลับไม่สามารถนำสินค้าออกมาได้ จนกระทั่งตนเองได้เข้ามาช่วยเหลือ ดำเนินการทำเอกสารและจ่ายภาษีนำเข้า ค่าระวางสินค้า เพียงประมาณหลักแสนบาทเท่านั้น ก็สามารถนำสินค้าทั้งหมดออกมาได้ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าดำเนินการหลักล้านตามที่ไฮโซสาวเรียกเก็บเงิน
ขณะที่นายซู เว่ยฯ ยอมรับว่าที่หลงเชื่อว่าพวกของไฮโซสาวพูดภาษาจีนได้ และอ้างว่าตนเองทำผิด สินค้าจึงโดนจับ เคลียร์ยาก ต้องจ่ายเงิน แต่จริงๆแค่โดนเก็บไว้ตนเองเห็นว่าในเมื่อลงทุนนำเข้ามาแล้ว แม้ว่าจะต้องจ่ายค่าดำเนินการเพิ่มอีก 2 ล้าน ซึ่งไม่คุ้มกับต้นทุนสินค้า 3 ล้าน แต่ก็อยากได้สินค้าทั้งหมดกลับคืนมา จึงยอมจ่ายไป
หลังจากนี้นายสันธนะฯ ได้พานายซู เว่ยฯ ไปยื่นเอกสารถึงนักการเมืองคนดังที่ไฮโซสาวกับพวกกล่าวอ้างถึงทั้งหมด ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้หรือไม่
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน