เมื่อเวลา 12.22 น.วันที่ 16
พค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งทางเฟซบุ๊คว่า “วันนี้หนูเจอคนลำบาก…หนูได้รับข้อมูลจากร้านข้าวว่า…ลุงแกจะกลับโคราชแต่ไม่มีรถ…ลุงแกตอนแรกทำงานก่อสร้างพอตกจากนั่งร้านก่อสร้างลูกพี่ก็ปล่อยแกทิ้ง แกนั่งอยู่ตรงที่รอรถหลายวันแล้วค่ะ
หนูได้แต่ช่วยซื้อข้าวให้แกเฉยๆและให้เงินติดตัวไว้
จำนวนหนึ่ง…” หลังจากได้รับแจ้งฯผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังศาลาที่พักผู้โดยสารหน้าร้านเซเว่นฯริมถนน 304
กบินทร์-นครราชสีมา ขาเข้า ต.กบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี ได้พบผู้ชายวัย
กลางคนกำลังยืนถือไม้เท้า
อยู่ในศาลาที่พักผู้โดยสาร
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทราบ
ชื่อนาย อำพร ซึมกระโทก
อายุ 54 ปี บ้านเดิมอยู่ที่ 3
ม.2 ต.ไทรินทร์ อ.ลำปลาย
มาศ จ.บุรีรัมย์ มีภรรยา มีลูกด้วยกัน 1 คน ทำงานอยู่ชลบุรี นายอำพร บอกว่าตนเองมารับจ้างทำงานกับ
ผู้รับเหมาชื่อจิตร ไม่ทราบนามสกุล รับเหมาทำซุ้มประตูโบสถ์ที่วัดท่าข่อย
ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี
จ.ปราจีนบุรี มาทำกับคน
ในหมู่บ้าน 4 แต่กลับบ้าน
กันหมดแล้วเพราะเถ้าแก่ไม่จ่ายค่าแรงยังเหลือตนที่กำลังรอกลับบ้าน แต่เถ้าแก่
หนีกลับสระแก้วแล้วจึงหอบ
กระเป๋าเสื้อผ้า หิ้วลังใส่ตู้
เชื่อมแบบสะพานใส่กล่อง
ออกจากวัดเพื่อจะกลับบ้าน
ขณะเดินกระเผกๆออก
จากวัด มีคนสงสารให้ขึ้นรถ
มาที่บขส.แต่บขส.บอกว่าไม่
มีรถวิ่งข้ามจังหวัด คนที่มาส่งจึงถามว่าจะไปไหน นาย
อำพร บอกว่าจะไปหาคนที่
เคยทำงานด้วยกันมาก่อน
เขามีบ้านอยู่ในซอยข้าง
เซเว่นฯ และได้โทรคุยกัน
แล้วว่าจะมารับในช่วงเย็น
ให้รออยู่ที่นี่ก่อน
ผู้สื่อข่าวประสานไปยังนาย
อำเภอกบินทร์บุรี นายวัลลภ
ประวัติวงศ์ เดินทางมาสอบ
ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น นาย
อำพรบอกว่าตกนั่งร้านที่ทำ
งานนายจ้างหนีกลับไม่จ่าย
ค่าแรง นายอำเภอประสาน
ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ให้ราย
งานให้ทราบว่ามีผู้รับเหมาทำงานที่วัดฯจริงหรือไม่ให้รายงานให้ทราบโดยด่วน
เพื่อที่จะได้ช่วยกัน หาทางแก้ไขให้เป็นไปตามระบบ
นายอำพรบอกจะกลับบ้าน
นายอำเภอมอบเงินให้ 700
กว่าบาทเพื่อเป็นค่ารถ
ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าจะกลับบ้านยังไง นายอำพรบอกว่า
ถ้าไม่มีรถกลับก็จะขอไปหา
นางยุพิน ขอสงวนนามสกุล
อยู่บ้านน้ำฉ่า ต.หาดนางแก้ว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปส่ง
ถึงที่บ้าน นางยุพินบอกว่า
เคยมาทำงานที่บ้าน บ้านกำลังก่อสร้างและหนีไป
เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาไม่รู้ว่าไป
ไหน กระทั่งผู้สื่อข่าวมาส่งที่บ้านถ้ายังเดินไม่ได้ก็จะ
ให้พักอยู่ที่นี่ก่อนหายแล้วค่อยว่ากันอีกที
เวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดท่าข่อย พบว่ามีการสร้างซุ้มประตูโบสถ์จริง และได้ถามหาผู้รับเหมา ได้รับการเปิดเผยจากคนงานว่าผู้รับเหมากลับไปทำธุระที่ จ.สระแก้วไม่ได้หนีกลับ และได้ติดต่อกับผู้รับเหมาทราบว่าทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ใหญ่บ้านรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่อง
แบบนี้ ขอยืนยันว่าไม่เป็น
ความจริงเสร็จธุระแล้วจะ
รีบกลับมาจะไปพูดคุยกับ
นายอำพร ให้รู้เรื่อง ทำไม
โกหกนายอำเภอและผู้สื่อข่าวเพื่ออะไรจะไม่เอาเรื่อง
แต่อยากจะถามให้รู้เรื่องสิ่ง
ที่พูดไปทำให้คนอื่นเสียหาย
สังคมเข้าใจผิด…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์