หลังเป็นที่ฮือฮาให้แคะกระปุกกันทั่วบ้านทั่วเมืองไปแล้ว สำหรับการค้นหาเหรียญ 50 สต. ปี พ.ศ.2530 เจ้าของร้านปาหนันจิวเวลรี่อีกครั้ง กับเหรียญที่เหล่านักสะสมต้องการครอบครองและถือว่าหายากมากที่สุดก็ว่าได้
เมื่อวันที่ 16 ส.ค.59 นายปุญณพัฒน์ สิรเรืองวาณิช เจ้าของร้านปาหนันจิวเวลรี่ ให้สัมภาษณ์ ว่าเหรียญที่นักสะสมต้องการและมีราคามีจำนวนมากกว่า 900 แบบ แต่แบบที่ราคาสูงเกิน1,000 บาท มีมากกว่า 300 แบบ ส่วนเหรียญใดราคามากที่สุดนั้นไม่สามารถตอบได้
ล่าสุดเหรียญ 1 บาท ตราแผ่นดินปี พ.ศ.2493 ราคาประมูลอยู่ที่ 430,000 บาท หรือ ตอนนี้เหรียญ 25 สต.ปี พ.ศ.2500 บล็อกตัวอักษรบาง ราคารับซื้อไม่ต่ำกว่า 3,000-30,000 บาท
โดยราคาจะพิจารณาจากความสวย ลายคมชัด ยิ่งถูกเก็บโดยนักสะสมที่ไม่ผ่านการใช้งาน จะยิ่งหายากมีคุณค่าและสวยงาม เช่น ก่อนหน้านี้เคยเกิดกรณีที่ชาวโซเชียลแห่แชร์เหรียญ 10 รุ่นปี พ.ศ.2533 มาแล้ว เนื่องจากเป็นเหรียญที่ผลิตออกมาใช้งานน้อยมาก มีจำนวนเพียง 100 เหรียญเท่านั้น พบว่ามีที่กรมธนารักษ์มีเก็บไว้ประมาณ 62 เหรียญ
เพราะฉะนั้นที่เหลืออาจจะอยู่ในท้องตลาด จึงถือเป็นเหรียญที่หายากมาก ล่าสุด ที่เห็นมีการซื้อขายไม่ผ่านการประมูลอยู่ที่ราคา 230,000 บาท แต่เหรียญ10 บาท ก็ยังไม่ใช่เหรียญที่มีราคาสูงสุด
นายปุญณพัฒน์ เผยว่า สำหรับเหรียญหมุนเวียนที่นักสะสมถือว่าหายากที่สุดอันดับ 1 คือ เหรียญ 5 พระเศียรเล็ก ปี พ.ศ.2525 ราคาไม่ต่ำกว่า 4 แสนแน่นอน โดยสังเกตจากบล็อกเขียนเล็ก ตัวหนังสือที่พิมพ์จะลีบเล็กกว่าปกติ พระเศียรเล็ก ด้านก้อยเป็นครุฑกลางเหมือนกันแต่ด้านหัว จะพระเศียรเล็กกว่าอีก หากแยกไม่ออกให้ดูที่ ด. เด็ก ในคำว่า ภูมิพลอดุลยเดช หัวจะสั้นทำให้มีช่องว่างเหลือเยอะ
เพราะเป็นบล็อกที่มีการใช้หัวผิด ที่จริงต้องใช้บล็อกที่เป็นหัวใหญ่ แต่ปรากฏว่ามีการปั้มหัวเล็กแทน หรืออาจจะเป็นบล็อกเริ่มต้นที่ใช้ครั้งแรก แต่ไม่สวยจึงมีการเปลี่ยนบล็อก ซึ่งไม่ทราบที่มาสาเหตของรูปแบบที่ผิด นอกจากนี้ยังหาได้ยาก เนื่องจากผ่านมาระยะเวลามาหลายปี มีการเรียกเก็บคืนและยกเลิกใช้แล้ว จึงไม่ทราบว่ามีหลงเหลืออยู่ในท้องตลาดอีกกี่เหรียญ แค่คาดว่าน่าจะมีอีกแต่เพียงยังไม่มีใคร
สังเกต ถ้าเจอก็จะขอรับซื้อไว้ ตอนนี้เท่าที่ทราบหาเจอเพียงเหรียญเดียวเท่านั้นและอยู่ในครอบครองของ คุณอรรณพ แก้วประทุมทิพย์ สถาปนิกนักสะสมเหรียญชื่อดัง เจ้าของเดียวกันกับที่มีเหรียญ10 บาท พ.ศ.2533 นายปุณพัฒน์ กล่าว