วันที่ 1 พค.63 ชาวบ้าน ม.1-19 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 30 คนได้รวมตัวกันมาแจ้งความที่ สภ.วังตะเคียน ว่าพวกตนถูกนาง ลัดดาวัลย์ ขอสงวนนามสกุล เป็นประธานตำบลพัฒนาบทบาทสตรี ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ยักยอกเงินจากกลุ่มสมาชิกไปซึ่งทางกลุ่มได้จ่ายเงินกองทุนคืนให้กับทางพัฒนาชุมชนแล้วโดยจ่ายผ่านนางลัดดาวัลย์เพื่อเข้าบัญชีของพัฒนาบทบาทสตรี ตั้งแต่ พ.ศ.2560 เฉลี่ยคนละ 3-4
หมื่นบาท ต่อมาทางพัฒนาบทบาทสตรีได้เดินทางมาพบกับสมาชิกฯและแจ้งว่าทางสมาชิกตั้งแต่ ม.1-19 ไม่เคยได้ส่งคืนเงินกองทุนเลยเป็นเวลา 2 ปี สมาชิกจึงทราบว่าประธานไม่นำเงินส่งเข้าบัญชีกองทุนพัฒนาบท
บาทสตรีเลย ชาวบ้านจึงเข้าใจว่าประธานฯได้นำเงินไปใช้ส่วนตัวโดยไม่บอกกล่าวและไม่ยอมรับผิดชอบ
ชาวบ้านจึงได้ติดต่อสอบถามประธานฯซึ่งประธานฯบอกว่าได้นำเงินคืนให้กับกองทุนฯไปแล้วแต่ทางพัฒนาชุมชยยืนยันว่ายังไม่มีการส่งเงินคืนแต่อย่างใดและได้ติดต่อไปยังประธานฯอีกครั้ง และเริ่มบ่ายเบี่ยงมาตลอด
ชาวบ้านเกรงว่าจะต้องใช้หนี้กองทุนแทนประธานฯเป็นจำนวนเงินคนละ 3-4
หมื่นบาทโดยที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อหนี้
ทางด้าน พ.ต.อ.ประสิทธ์ ฟักศรี ผกก.สภ.วังตะเคียน
ได้ลงมาพบปะพูดคุยและให้คำแนะนำกับชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวด้วยตัวเอง พร้อมกับแนะนำให้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ร.ต.อ.มโน อ่อนสุรทุม
รองสารวัตรเวรสอบสวนได้รับแจ้งความและค้นประวัติของนางลัดดาวรรณ และจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งชาวบ้าน เป็นที่พอใจและฝากความหวังใว้กับตำรวจเพื่อติดตามตัวนางลัดดาวัลย์ มาดำเนินคดีตามกฏหมาย
ทางด้าน น.ส.อัจจิมา ขอสงวนนามสกุล ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่าตนกับชาวบ้านรับไม่ได้ที่จะยอมรับสภาพหนี้แทนนางลัดดาวัลย์ ประธานฯ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวนางลัดดาวัลย์ มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด…
เวลาต่อมา พัฒนาชุมชนกบินทร์บุรีได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนและได้นำเอกสารเกียวกับการเงินฯ มอบให้พนักงานสอบสวนและได้มอบเอกสารสำคัญที่ชาวบ้านได้ให้เงินกับประธานฯเพื่อเป็นหลักฐานว่ากลุ่มสมาชิกได้คืนเงินให้กับกองทุนโดยผ่านประธานฯจริงตามที่กล่าวอ้างขั้นต้น
ทั้งนี้พัฒนาชุมชนไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดใดทั้งสิ้น…
ภาพ/ข่าว: ทองสุข สิงห์พิมพ์
ลักขณา สีนายกอง/รายงาน