(30เม.ย.63)นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคปชป.กล่าวถึงกรณีบ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)ฟ้องสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ศาลปกครองกลาง เพื่อให้ชำระหนี้จำนวน 1,596,592,305.46 บาท โดยกล่าวหาว่าสภาฯส่งมอบพื้นที่ในการก่อสร้างล่าช้า และนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ออกมากล่าวสำทับอีกว่า บริษัทฟ้องร้องถูกต้องแล้ว จึงเป็นที่น่าสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการของนายสรศักดิ์เป็นอย่างยิ่งว่าซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ เหตุใดถึงยอมรับว่าบริษัทฟ้องเรียกค่าเสียหายสภาฯถึง 1,596 ล้านบาทเป็นเรื่องถูกต้อง เป็นพฤติกรรมที่ปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการหรือไม่ ทั้งๆที่ในความจริงสภาฯไม่ผิด และในสัญญาก็เขียนไว้ชัดแล้วว่าสภาฯไม่ต้องรับผิด ซึ่งต้องพิสูจน์ความจริงกันในศาลว่าใครโกหกเพื่อหวังเงินภาษีอากรของประชาชนหรือไม่ อีกทั้งสภาได้ขยายเวลาการก่อสร้างจากสัญญาเดิม 900 วันให้บริษัทถึง 4 ครั้ง
คือครั้งที่ 1/387 วัน มีนายสรศักดิ์ เพียรเวช เป็นประธานตรวจการจ้างเป็นผู้เสนอให้ขยาย ซึ่งแต่เดิมกรรมการชุดนี้มีนายวีระพันธ์ มุขสมบัติ เป็นประธานมีมติให้ขยายเพียง 287 วัน นายสรศักดิ์มีมติเพิ่มให้อีกถึง 100 วัน เมื่อนายสรศักดิ์ได้รับจัดวางให้เป็นเลขาธิการสภาฯได้อนุมัติให้ขยายเวลาครั้งที่ 2 เป็นเวลา 421วัน ครั้งที่ 3 เป็นเวลา674 วันและครั้งที่ 4 อีก 382 วัน รวมผลงานการขยายเวลาให้บริษัทซิโน่ฯของนายสรศักดิ์ล้วนๆ รวมทั้งสิ้น 1,864 วัน มากกว่าสัญญาหลักถึง 2 เท่าผิดปกติวิสัยของวิญญูชนโดยทั่วไป ซึ่งในสัญญาหากก่อสร้างล่าช้า บริษัทต้องจ่ายค่าปรับให้สภาฯวันละ 12 ล้านบาท ไม่ทราบว่าประเด็นที่รัฐเสียหายมากถึงขนาดนี้จะนำไปฟ้องศาลอาญาทุจริตได้หรือไม่ มิหนำซ้ำบริษัทซิโน่ฯยังมีหนังสือลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ถึงนายสรศักดิ์ เลขาธิการสภาฯเรียกค่าเสียหายถึง 1,605,228,940.83 บาท อันเป็นที่มาของการฟ้องศาลปกครองในครั้งนี้ ดังนั้น การที่นายสรศักดิ์ยังอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการสภาต่อไป ประชาชนจะเชื่อใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการซูเอี๋ยระหว่างกัน เพราะเป็นผู้มีส่วนสำคัญทำให้สภาฯถูกฟ้องในครั้งนี้
นายวัชระ ชี้ว่า การที่บริษัทซิโน่ฯฟ้องในครั้งนี้ จึงเป็นการสวนทางกับคำพูดของนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอย่างสิ้นเชิง เพราะนายอนุทินเคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยว่า”บริษัททราบว่าการก่อสร้างครั้งนี้จะมีปัญหา แต่ทำไมยังรับก่อสร้างนั้น อยากจะบอกว่าบริษัทถือคติเอากล่องไม่เอาเงิน เอาศักดิ์ศรี เอาความภาคภูมิใจ จะได้เขียนลงในประวัติบริษัทว่าเคยก่อสร้างรัฐสภา ด้วยเกียรติของผม ของพ่อผม มีเกียรติเพียงพอที่จะรับประกันว่าโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความโปร่งใส”
เมื่อนายอนุทินยืนยันว่า”บริษัทถือคติเอากล่อง ไม่เอาเงิน”แล้วบริษัทซิโน่ฯของนายอนุทินไปฟ้องศาลปกครองเอาเงินอีก 1,569 ล้านทำไม? เกียรติของตัวนายอนุทิน บิดานายอนุทินตามที่เคยกล่าวอ้าง เกียรติของบิดาท่านที่ชื่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้ทรงเกียรตินั้นอยู่ตรงไหน?ยิ่งตอนนี้อยู่ในภาวะที่รัฐบาลถังแตกตัองกู้เงินนับล้านล้านบาทเพื่อดูแลประชาชนจากโรคโควิด-19 เงินแค่ 5,000 บาทยังแจกประชาชนได้ไม่ทั่วถึง แต่บริษัทซิโน่ฯของรองนายกรัฐมนตรีกลับมาฟ้องร้องเรียกเอาเงินจากรัฐบาลถึง 1,600 ล้านบาทในภาวะวิกฤตอย่างนี้ ต้องถามว่าใช้หลักธรรมาภิบาลข้อไหน
ทั้งนี้ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานปปช.สภาผู้แทนราษฎร จะแถลงเปิดหลักฐานการทุจริตในเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ ที่ 3 พฤษภาคม 2563เวลา 10.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์..
————-