บทความพิเศษ “สงครามโรคระบาด ต้องสามัคคี รวมใจเป็นหนึ่ง”

จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้เรารู้ว่ามนุษย์โลกเรานี้มีภัยอันตรายอยู่เสมอ

ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่งซึ่งทำให้ชีวิตของผู้คนต้องล้มตายครั้งละมากๆ ปัจจุบันนี้ ภัยอันตรายที่เราต้องเผชิญอยู่ คือ ภัยจากโรคระบาด โควิด-19 หรือโคโรน่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แล้วลุกลาม มาประเทศไทยก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก
โรคระบาด ที่ร้ายแรง ที่สำคัญสำคัญในอดีตได้แก่ ในปี พ.ศ. 1890 ถึง 2084 กาฬโรค เกิดจากการติดเชื้อจากหนู ทำให้มีคนตายกว่า 200 ล้านบาท ปี พ.ศ, 2063 ฝีดาษ คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปกว่า 90% ชาว ยุโรปกว่า 400,000 คน ปี พ. ศ. 2461 จนถึง 2463 ไข้หวัดสเปน คร่าชีวิต คู่ควง ไปกว่า 100 ล้านคน ปี พ. ศ. 2524 ปัจจุบัน โรคเอดส์ ทำให้คนเสียชีวิต 1.6 ล้านคนต่อปี และปีพ.ศ 2562 โควิด-19 หรือโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่กำลังคุกคามชาวโลกอยู่ ในขณะนี้ โดยเชื่อกันว่าคนติดเชื้อ มาจากค้างคาวขี้คนจีนนำมาบริโภค หรือ หรือมีคนร่ำลือกันว่า โรงงาน อาวุธชีวภาพ ที่ตั้งอยู่ เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน เปิดรั่ว ออกมา หรืออีกกระแสหนึ่งว่า มาจากชาวอเมริกัน นำเชื้อมาปล่อยที่ เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
ทำความเดือดร้อนไปทั่วโลก
เมืองอู่ฮั่น จึงเป็นต้นกำเนิดของโรคโควิด 19 นั้นมีพลเมือง 11 ล้านคน เมื่อทราบว่าเกิด โรคระบาดร้ายแรง ทางการจีนสั่น ปิดเมืองอู่ฮั่น เมืองอื่นๆ ใกล้เคียงกันออกนอกบ้านและมีมาตรการอื่นๆ อย่างเข้มงวด รวมถึงระดมสรรพกำลังต่อสู้ กับลูกรายนี้อย่างจริงจังกับทั้งสามารถควบคุมโรคนี้ได้อยู่ในวงจำกัดและให้การรักษาคนป่วยให้หายได้ เป็นจำนวนมากทำให้มียอดคนติดเชื้อเพียงแปดหมื่นกว่ารายควรตายเพียง 3สามพันกว่ารายจนในที่สุดทำให้เมืองอู่ฮั่นกับ เข้าสู่ภาวะปกติได้แล้ว
ในขณะที่ประเทศในยุโรปและอเมริกาเกิดการระบาดอย่างหนักยังไม่สามารถควบคุมได้ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้
สำหรับประเทศไทยของเราซึ่งเป็นประเทศแรกที่ได้รับเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถรับมือกับโรคร้ายได้อย่างดีคือมีเชื้อน้อยและมีคนเสียชีวิตน้อยมากเพื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆที่จะรับเชื้อภายหลังทั้งนี้เป็นเพราะระบบสาธารณสุขของเราเข้มแข็ง
รัฐบาลเอาใจใส่อย่างจริงจังและประชาชนตื่นตัวให้กับ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีดังจะเห็นได้ว่ามีการตั้งด่าน กัดกันโรคทุกหนแห่ง ผู้คนใส่หน้ากากอนามัยยางแพร่หลายและ อยู่แต่ในบ้านตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่แม้จะมีผู้ฝ่าฝืนบ้างแต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยผิดกับชาวยุโรปและอเมริกัน ที่ไม่สนใจคำสั่งหรือคำแนะนำหลายๆแต่เจ้าหน้าที่เพราะพวกเขาห้ามเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ตามระบบประชาธิปไตยขึ้นสมองนั่นเอง
นอกจากการควบคุมและดูแลและรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างดีมากสถานสากลแล้ว รัฐบาลยังความช่วยเหลือดูแลผู้ตกนานเพราะบริษัทห้างร้านไม่สามารถเปิดทำการอย่างได้ปกติ มีการจ่ายเงิน แต่ผู้ตกงาน
รัฐบาลเยียวยารายละ 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้พวกเขายังชีพอยู่ได้แต่การจ่ายเงินเยียวยานี้มีปัญหามากมายเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถสนอง ความต้องการของผู้คนจำนวนมากได้เนื่องจาก ใครๆก็ ต้องการรับเงินช่วยเหลือทั้งนั้น นับตั้งแต่หมอนวด ช่างตัดผม ผู้ขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รับจ้างทั่วไปและ อาชีพอิสระ พนักงาน โทรศัพท์ถูกเลิกจ้างรวมไปถึงเกษตรกร แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลใจง่ายตายไวแต่ไม่รอบคอบนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ประกาศออกไปเลยโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบในวงกว้างที่จะตามมาไหนๆก็ลงมือแจกไปแล้วก็ตั้งหน้าแตกไปจนกว่าจะหมดหน้าตัก
อนึ่ง เราต้องขอชมเชยหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต้องทำงานอย่างหนัก แทบ จะไม่มีเวลาพักผ่อน หลับนอนแต่ คนไทยมีน้ำใจให้กันเสมอ หลายคนหลายบริษัทห้างร้านต่างๆก็มาให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่และโรงพยาบาลไม่ขาดสายมีการบริจาคเงินสิ่งของตลอดจนทำอาหารมาเลี้ยง ดูผู้ตกทุกข์ได้ยาก นั่น เป็นเพราะคนไทยไม่ทิ้งกันนั่นเอง