เมื่อเวลา13.30 น. วันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลนัดไต่สวนคดีที่กลุ่มกิจการร่วมค้า เจวีซีซี (JVCC) โดยบริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) ที่เข้าร่วมการประกวดราคาในโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน เมื่อปี 2558 ยื่นฟ้อง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) , คณะกรรมการบริหารกิจการของ ขสมก. , ผู้อำนวยการ ขสมก. , คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพอ.) และกระทรวงการคลัง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 เรื่องมีคำสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
กรณีวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ขสมก. ผู้ถูกฟ้องที่ 1 มีหนังสือให้ยกเลิกการทำสัญญาและการลงนามในสัญญาซื้อขายรถโดยสารฯ หลังจากมีผู้เข้าร่วมประกวดราคารายหนึ่ง ยื่นคัดค้านการประกวดราคา และยื่นอุทธรณ์ต่อ กวพอ.ทั้งที่ในการประกวดราคาดังกล่าว บริษัทผู้ฟ้องเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นผู้เสนอราคา และดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนที่ประกาศดังกล่าวครบถ้วน จนบริษัทผู้ฟ้องได้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาเมื่อปี 2558 ได้มีการต่อรองราคาตามกระบวนการ และตรวจร่างสัญญาซื้อฯ เพื่อเตรียมที่จะลงนามในสัญญากับ ขสมก.ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ตลอดจนวางแผนการดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับการส่งมอบรถโดยสารให้เป็นไปตามสัญญาส่งมอบ 90 วัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย กวพอ.ผู้ถูกฟ้องที่ 4 มีคำวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้เข้าร่วมประกวดราคารายที่ได้ยื่นคัดค้านว่าอุทธรณ์นั้นฟังไม่ขึ้น ทำให้ฟังได้ว่าการประกวดราคานั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว การมีคำสั่งยกเลิกการประกวดราคา และการลงนามในสัญญา ไม่ใช่ความผิดของกิจการร่วมค้า เจวีซีซี (JVCC) ผู้ฟ้อง โดยบริษัทผู้ฟ้องได้ดำเนินการเพื่อจัดเตรียมส่งมอบรถโดยสารให้แก่ ขสมก.ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ให้ทันภายใน 90 วันตามสัญญาแล้ว หากมีการยกเลิกการประกวดราคาครั้งดังกล่าว กิจการร่วมค้า เจวีซีซี (JVCC) ผู้ฟ้อง จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเสียโอกาสในการรับงานจากลูกค้ารายอื่น ค่าขาดกำไร การเช่าสถานที่เพื่อจัดเก็บรถโดยสารที่ผลิตเสร็จแล้ว รวมมูลค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 1,500 ล้านบาทเศษ
ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งรับฟ้องคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2559 และคดีเข้าสู่ชั้นพิจารณาที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาล โดยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นคำให้การและคำคัดค้านพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง
โดยวันนี้มีเพียง ฝ่ายกิจการค้าร่วมค้า เจวีซีซี (JVCC) ผู้ฟ้องเท่านั้นที่มาศาล ซึ่งมีนายกริน ชยวิสุทธิ์ เป็นตัวแทน ขณะที่ศาลใช้เวลาไต่สวน 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
ภายหลัง นายกริน เปิดเผยว่า มารับฟังเกี่ยวกับข้อมูลทางคดี ศาลได้ชี้แจงขั้นตอนให้ทราบ ขณะที่เรานำเรียนศาลถึงข้อมูลได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพอ.) ตามขั้นตอน เมื่อวาน (10 ส.ค.) ที่ผ่านมา กรณีให้หยุดดำเนินการใดๆ รับรองผล บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ชนะประกวดราคาฯ ที่ได้มีการเปิดซองประกวดราคาใหม่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาด้วย เพราะอาจจะกระทบคดีที่เราได้ยื่นฟ้องอยู่ กรณีที่เรายื่นเรื่องต่อ กวพอ.นั้นยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา ทั้งที่ตามระเบียบที่ ขสมก.ระบุว่า เมื่อ กวพอ. รับเรื่องแล้วหน่วยงานต้องหยุดดำเนินการในทันที ทั้งนี้เราคงต้องรอผลพิจารณาของ กวพอ.ว่าจะสรุปอย่างไร หากไม่เป็นผลตามที่เรายื่นไว้ ก็เตรียมที่จะมายื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวต่อไป
Related News