เชียงใหม่-ทหารรวบ2อดีตสส.เพื่อไทย และรองนายกบ้านธิหลังพบลายพิมพ์นิ้วมือจดหมายบิดเบือนร่างรธน.ส่งศาลทหารดำเนินคดีตามกฏหมายอาญาม.116
พลตรีโกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เปิดเผยความคืบหน้าคดีจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ หลังมีการจับกุมนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ รองนายกอบจ.เชียงใหม่ หลานสาว และเป็นอดีตสส.พรรคเพื่อไทย พร้อมพวกรวม 10 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาและถูกดำเนินคดีอาญา ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง และ มาตรา210 สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปกระทำการเข้าข่ายอั้งยี่ ซ่องโจร รวมถึง พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 (2) และ(4)ที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่ และทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.
ทั้งนี้ จากการขยายผล ศาลทหารยังได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 คนเพราะมีส่วนเชื่อมโยงกันคือ นายสมโภชน์ สายเทพ อดีต ส.ส.จังหวัดลำปาง พรรคเพื่อไทย, นายรังสรรค์ มณีรัตน์ อดีตส.ส.ลำพูนพรรคเพื่อไทย และนายปริญญาขาวรัตน์รองนายกเทศมนตรีบ้านธิ“สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่นำตัวขึ้นศาลทหารเพรนะมีพยานหลักฐานโยงถึง และให้ทางมทบ.11 สอบสวนเพิ่มเติม ทั้งสามคนพนักงานสอบสวนตรวจพบว่ามีลายนิ้วมือติดอยู่บนซองจดหมายบิดเบือนที่ตรวจยึดได้ที่สำนักงานไปรษณีย์เขต 5
”ผบ.มทบ.33 กล่าวส่วนกรณี นางเจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เป็นการมาแนะนำตัวเนื่องจากเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ และได้สอบถามเรื่องบรรยากาศของเชียงใหม่ เนื่องจากกงสุลใหญ่สหรัฐเคยมาเรียนที่แอแบคและได้ชื่นชมการลงประชามติของไทย ซึ่งก็ได้ชี้แจงให้ทราบว่าเชียงใหม่มีประชาชนไปออกเสียงลงประชามติถือเป็นอันดับ 3 ของประเทศ แต่เป็นอันดับ 1 ของจังหวัดใหญ่ที่มีผู้ออกไปออกเสียงลงประชามติมากที่สุด.
