ทางการฝรั่งเศสยอมรับ เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นต้นตอทำยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนแดนน้ำหอม โดยเฉพาะกรุงปารีสลดฮวบ กระทบรายได้เข้าประเทศ ทั้งยังสั่นคลอนสถานะของฝรั่งเศสในฐานะเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวของโลก
มัตติอัส เฟกล์ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของฝรั่งเศส เปิดใจให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เลอ ชูร์นัล ดู ดิมองเช โดยระบุ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการในฝรั่งเศสกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลดจำนวนลงอย่างสำคัญ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ตะวันออกกลาง รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา
รัฐมนตรีท่องเที่ยวของฝรั่งเศสยอมรับว่า ความหวาดกลัวภัยคุกคามจากการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตัดสินใจที่จะไม่เดินทางเข้ามาในฝรั่งเศส โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงปารีส
ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น และรัสเซียที่เดินทางมายังฝรั่งเศสในช่วงครึ่งแรกของปี 2016 นี้ มีจำนวนลดลงถึงร้อยละ 40 และร้อยละ 35 ตามลำดับ ขณะที่ยอดนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ปรับลดลงไปราว 1 ใน 5 หรือร้อยละ 20
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2016 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ได้ปรับลดลงไปราวร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันนี้ของปี 2015
ขณะที่ยอดการจองห้องพักโรงแรมในกรุงปารีสประจำเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ปรับลดลงไปร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับจำนวนของ “เที่ยวบินขาเข้า” มายังปารีสที่หายไปราวร้อยละ 10 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว กลุ่มมือปืนที่มีหลักฐานว่าเป็นเครือข่ายของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) จากซีเรีย ได้ลงมือก่อเหตุวินาศกรรม 6 จุดกลางกรุงปารีสเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 130 ราย ขณะที่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสมาชิกกลุ่มสุดโต่งก่อเหตุขับรถบรรทุกไล่ชนผู้คนในเมืองนีซ เมืองตากอากาศชื่อดังทางภาคใต้ของฝรั่งเศส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปอีกอย่างน้อย 85 รายขณะมีการเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส