ตาลีบันอ้างส่งมือบึ้ม กดระเบิดฆ่าตัวตายกลางฝูงชนหน้ารพ.ในปากีสถาน คร่าชีวิตทนายความและคนอื่นๆ 70 ราย เจ็บกว่าร้อย
วันที่ 8 ส.ค. ความคืบหน้าเหตุระเบิดแบบฆ่าตัวตาย โจมตีฝูงชนที่หน้าโรงพยาบาลในเมืองเกตตา เมืองหลวงของจ.บาลูจิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ช่วงสายวันนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 70 คน บาดเจ็บอีก 112 คน ล่าสุด กลุ่ม จามัต-อุล อาฮ์รา กลุ่มย่อยในเครือตาลีบันปากีสถาน (ทีทีพี) ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลัง พร้อมประกาศจะลงมือโจมตีอีกจนกว่าปากีสถานจะประกาศระบอบอิสลาม
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นทนายความและอาจมีสื่อมวลชนรวมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง ขณะเหยื่อกำลังรวมตัวอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลเพื่อไว้อาลัยและรับศพเพื่อนร่วมอาชีพที่เสียชีวิตจากมือปืนยิงเสียชีวิตก่อนหน้านั้นในเช้าวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี บรรยายว่า เขาอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 20 เมตร เมื่อวิ่งไปดู เห็นศพกลาดเกลื่อน และคนบาดเจ็บร้องโอดโอย เศษเนื้อกระจายทั่วเช่นเดียวกับกองเลือด พยาบาลและทนายพากันร่ำไห้ ขณะหน่วยแพทย์รุดออกมาช่วยคนเจ็บเข้าไปรักษาโดยด่วน ผู้คนอีกส่วนตกอยู่ในอาการช็อคสุดขีด ตีอกชกหัวตัวเอง และร้องไห้
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตัดสัญญาณโทรศัพท์ในบริเวณโรงพยาบาล เพื่อเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อนหลังเกิดเหตุลักษณะนี้ ทำให้ในช่วงแรก การติดตามสถานการณ์ทำได้ยาก
ตำรวจกล่าวว่า มือระเบิดผูกติดระเบิดน้ำหนัก 8 กิโลกรัมอัดลูกปืนและเศษโลหะ โจมตีกลางฝูงชน ซึ่งกลายเป็นการโจมตีนองเลือดมากที่สุด รองจากเหตุระเบิดโจมตีสวนสาธารณะ ช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ที่เมืองละฮอร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 75 คน ซึ่งครั้งนั้น ตาลีบันปากีสถานก็อ้างลงมือเช่นกัน
สมาคมทนายความประกาศไว้อาลัย 7 วัน และคว่ำบาตรศาลเป็นเวลา 1 วันทั่วประเทศ เพื่อประท้วงการวางระเบิดครั้งนี้
บาลูจิสถาน เป็นจังหวัดใหญ่สุดในแง่ของพื้นที่ ร่ำรวยทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อยู่ติดชายแดนอัฟกานิสถานและอิหร่าน แต่เผชิญความรุนแรงจากหลากหลายปมเหตุมานานหลายสิบปี ทั้งความรุนแรงระหว่างสุหนี่กับชีอะห์ และการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนของกลุ่มชาติพันธุ์ บาลุช เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,400 คนในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา