สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลพบุรี เขต.1 พลังประชารัฐ ลุยงาน ประเด็น เอกสารสิทธิ์ให้กับประชาชน เป็น โฉนดที่ดิน ตามกฎหมาย ให้กับประชาชนชาว นิคมสร้างตนเอง ลพบุรีมีที่ทำกิน เร่งเสนอมติ ถึงกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล ให้เป็นมติด่วน ออกโฉนดที่ดินให้ประชาชนชาวลพบุรี และให้มาสำรวจอย่างเร่งด่วน
นาย ประทวน สุทธิอำนวยเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.1 พรรคพลังประชารัฐ
กำลัง จัดทำเสนอมติด่วน รัฐบาลในกรณีเอกสารสิทธิ์ ในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง ลพบุรี เพื่อออกโฉนดให้ประชาชน อยากเล่นด่วน ในประเด็นนี้ เสนอ กระทรวงมหาดไทย และ รัฐบาล
จะแปรมติในสภาต่อไป
วันพุธที่ 18 มีนาคม 2563
นาย ประทวน สุทธิอำนวยเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลพบุรี เขต.1 พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดเผยกับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี ว่า ตนเองกำลังเร่ง ทำเพื่อประชาชนชาวตำบลนิคมสร้างตนเอง จังหวัดลพบุรี เพื่อ เสนอกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล จะออก โฉนดที่ดินทำกินให้ประชาชนนิคมสร้างตนเอง
ตอนนี้ ออกเอกสารสิทธิ์ใช้ให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลนิคมสร้างตนเองเป็นหนังสืออนุญาตให้เข้าไปใช้ประโยชน์ น.ค.1 จำนวน 622 ราย แบ่ง 2 ตำบล ตำบลโคกตูมจำนวน 327 ราย หนังสือแสดงทำประโยชน์ น.ค. 3 และตำบลนิคมสร้างตนเอง หมู่ที่ 2,6,7,8,และ 9 จำนวน 358 ราย มีเนื้อที่ 2,071-1-67.05 ไร่ และพื้นที่ตำบลโคกตูม หมู่ที่ 1-16
จำนวน 363 ราย เอกสารสิทธิ์ ให้ที่ดิน ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าว เป็นโฉนด ที่ดินตามกฎหมาย
นาย ประทวน สุทธิอำนวยเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลพบุรี เขต.1 พรรคพลังประชารัฐ
ได้เปิดเผย เพิ่มเติมว่า ผมขอย้อนรอย และขอเล่าประวัติความเป็นมา ของนิคมสร้างตนเอง มีดังนี้ การจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๒ รัฐบาลอันมีจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี เห็นสมควรให้จัดตั้ง “นิคมกสิกร” ขึ้นในจังหวัดลพบุรี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการบูรณะและจัดสร้างเมืองใหม่ลพบุรี นอกจากนี้ก็เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปตั้งถิ่นฐานประกอบอาชีพอยู่ในนิคมกสิกรแห่งนี้ ทั้งเป็นการช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่ดิน ทำกินเป็นของตนเองด้วย นิคมกสิกรจังหวัดลพบุรี ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๓ โดยมี คณะกรรมการจังหวัดลพบุรีเป็นผู้ดำเนินงาน ต่อมาได้โอนมาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของกรมประชาสงเคราะห์ เมื่อ ปลายปี พ.ศ. ๒๔๘๓ หลังจากนั้นนิคมฯ มีการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ และเปลี่ยนชื่อจาก “นิคมกสิกรจังหวัดลพบุรี” เป็น “นิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรี”
นิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรีประกอบพิธีเปิดป้ายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๔ อนึ่ง เนื่องจากนิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรี และนิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี มีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกัน และมีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองในจังหวัดลพบุรี และจังหวัดสระบุรี พุทธศักราช ๒๔๘๕ ฉบับเดียวกัน ในระยะต่อมากรมประชาสงเคราะห์ได้มีการรวมนิคมสร้างตนเองทั้ง ๒ แห่งนี้เข้าด้วยกัน จนกระทั่งได้มีการแยกเขตการบริหารงานของนิคมสร้างตนเองทั้ง ๒ แห่ง เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๓๕ จึงมี ผลทำให้นิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรี แยกการบริหารกิจการนิคมออกจากนิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท จังหวัด สระบุรี อีกครั้งหนึ่งจนถึงปัจจุบัน
สมาชิกนิคมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก คือ เกษตรกร และเกษตรกรรม โดยมีผลผลิตหลัก ประกอบด้วยเลี้ยงวัวนม,ทำไร่อ้อย,ทำไร่มันสำปะหลัง,ปลูกข้าวโพด และปลูกทานตะวัน รายได้เฉลี่ยของสมาชิกนิคม เป็นเงิน ๒๖๔,๖๐๐ บาท/คน/ปี
สภาพทางกายภาพ ภูมิศาสตร์ของนิคม – สภาพพื้นที่ทั่วไป ลักษณะดิน และความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ สภาพพื้นที่นิคมสร้างตนเองจังหวัดลพบุรี โดยทั่วไปเป็นที่ราบสลับเนินสูงพื้นที่บางตอนเป็นหินลูกรังและภูเขา บางตอนเป็นที่ลุ่ม มีแหล่งน้ำอยู่ในพื้นที่ทั่วไป และมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยซับเหล็ก ขนาดความจุ ๙,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำห้วยส้ม ขนาดความจุ ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร มีป่าไม้ธรรมชาติเพียงเล็กน้อย ลักษณะของดินแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่ บางตอนมีลักษณะ เป็นดินดำ ลพบุรี บางตอนเป็นดินปากช่อง บางตอนเป็นดินร่วนปนทรายลักษณะดินร้อยเอ็ด
ดินแดง ชนิดดินปากช่อง อยู่ในเขตพื้นที่นิคมฯ โดยทั่วไป เหมาะสำหรับปลูกพืชไร่ ไม้ยืนต้น
ดินดำชนิดดินลพบุรีอยู่ในเขตพื้นที่นิคมฯ โดยทั่วไป เหมาะสำหรับปลูกพืชไร่ ไม้ยืนต้น และทำนา
ดินดำร่วนปนทรายลักษณะดินร้อยเอ็ด อยู่ในเขตพื้นที่ตำบลนิคมสร้างตนเอง ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี และพื้นที่ตำบลพัฒนานิคม ตำบลชอนน้อย ตำบลหนองบัว ตำบลมะนาวหวาน อำเภอพัฒนานิคม เหมาะสำหรับปลูกพืชไร่ มันส าปะหลัง และกระเจี๊ยบแดง
สภาพทางภูมิประเทศและสภาพทางภูมิอากาศ สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไป มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ และยังได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่นและพายุใต้ฝุ่นอีกด้วย มีอุณหภูมิเฉลี่ย ๒๘.๓ องศาเซลเซียส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละประมาณ ๑,๑๔๗.๖๐ มม
ด้าน นาย ประทวน สุทธิอำนวยเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.1 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยเพิ่มเติม อีกว่า
มื่อปี 2483 กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งนิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีขึ้น ที่ตำบลพระพุทธบาท อำเภอแก่งคอย อำเภอชัยบาดาล อำเภอโคกสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จัดสรรที่ดินให้ราษฎรที่ยากจนไม่มีที่อยู่ทั่วประเทศเข้ามาทำกิน ต่อมาปี 2501 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้สั่งให้จัดตั้งนิคมเขตอำเภอพัฒนานิคม จัดสรรที่ดินให้กรรมกร สามล้อ และพ่อค้าแผงลอย เข้ามาทำกินและจัดตั้งที่ทำการถาวรขึ้นเมื่อปี 2503
เนื่องจากการปกครองและการพัฒนาเป็นไปด้วยความยากลำบาก กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย จึงได้พิจารณาขอยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอและได้ประชุมศึกษาในเรื่องนี้เดือนพฤษภาคม 2503 และได้มีประกาศของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2505 จัดตั้งกิ่งอำเภอขึ้นใช้ชื่อว่า กิ่งอำเภอพัฒนานิคม โดยแยกหมู่ที่ 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 และ 14 ตำบลธารเกษม ตำบลโคกสลุง อำเภอชัยบาดาล และตำบลดีลัง จังหวัดลพบุรี มาขึ้นอยู่ในปกครอง
ในปี 2521 นายไสว บุญนัน ได้ขอที่ดินของนิคมพระพุทธบาท-สระบุรี พื้นที่จำนวน 15 ไร่ เพื่อสร้างสำนักงานเกษตรอำเภอขึ้น ในปี 2523 นายประจำ อังกาพย์ เป็นผู้ดำเนินการสร้าง และมีเกษตรตำบลในสมัยนั้น
นายประทวน สุทธิอำนวยเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อ แก้ไขปัญหาการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เพื่อให้ประชาชนได้มีกรรมสิทธิ์ในการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างถูกต้อง และได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย กรมที่ดิน จึงเร่งรัดการดำเนินการออกโฉนดที่ดินที่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ตามกฎหมาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นคงเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินของตน นำไปเป็นหลักประกันในการสร้างรายได้และอาชีพของแต่ละครอบครัว
ทั้งนี้ การออกโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน แบ่งได้เป็น 2 วิธี คือ 1.การออกโฉนดที่ดินโดยวิธีเฉพาะราย เป็นกรณีที่เจ้าของที่ดินจะต้องไปยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินท้องที่ และต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรังวัดอย่างน้อย 3 – 5 พันบาท แล้วแต่ขนาดและสภาพของพื้นที่ 2.การออกโฉนดที่ดินโดยวิธีการเดินสำรวจ เป็นกรณีที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมที่ดิน จัดส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง เข้าไปดำเนินการรังวัดออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายเพียงแปลงละ 100 กว่าบาทเท่านั้น ประเด็นที่สำคัญคือ ที่ดินที่สามารถออกโฉนดได้ตามกฎหมาย ต้องไม่เป็นที่ดินหวงห้ามต่างๆ เช่น ที่สาธารณประโยชน์ ที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ
กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เกริ่นอธิบายความหมายไว้ว่า ที่ดินเป็นสินทรัพย์ที่มีค่า มีราคา และมีประโยชน์แก่มวลมนุษย์อย่างยิ่ง เช่น ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เกษตรกรรม อุตสาหกรรม หลักประกัน และอื่นๆ
โดยประเภท หนังสือแสดงสิทธิที่ดินที่ออกโดยกรมที่ดิน มี 5 ประเภท หรือสามารสังเกตได้ง่ายๆ จากตราครุฑด้านบนเอกสาร ที่จะมีสีแตกต่างกันไป ดังนี้
ส.ค.1 (ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
เป็น ใบแจ้งการครอบครองที่ดินใช้ประโยชน์ทำกิน เพื่อให้รู้ว่าเรากำลังครอบครองที่ดินแปลงไหนอยู่ ซึ่งผู้ครอบครองจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ก่อน 1 ธันวาคม 2497 เท่านั้น แต่เอกสารนี้ “ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิที่ดิน” เพราะไม่ใช่หลักฐานที่ราชการออกให้
ผู้ที่มี ส.ค.1 มีสิทธิขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก., น.ส.3 ข.) ได้ ซึ่งจะต้องทำภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 และสำหรับใครที่ยังไม่ได้ขออกโฉนด ปัจจุบันก็ยังสามารถทำได้ แต่จะต้องศาลยุติธรรมต้องมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดว่าผู้นั้นถือครอบครองและทำประโยชน์ก่อนที่ประมวลกฎหมายบังคับใช้ 1 ธันวาคม 2497
น.ส.2
ใบจอง หรือหนังสือที่ทางราชการออกให้ แสดงความยินยอมให้ครอบครองทำประโยชน์ที่ดินเป็น “การชั่วคราว” เท่านั้น
ที่สำคัญคือ ที่ดินประเภทนี้ ทางราชการจัดที่ดินให้ทำกินตามประมวลกฎหมายที่ดิน โดยจะมีประกาศเปิดโอกาสให้จับจองเป็นคราวๆ ไปในแต่ละท้องที่ “ไม่สามารถขาย จำนอง หรือโอนให้ผู้อื่นได้” ยกเว้นแต่ตกทอดทางมรดก
ผู้ที่มีใบจองนี้ต้องเริ่มเข้าทำประโยชน์ภายใน 6 เดือน และทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับใบจอง และต้องใช้ที่ดินไม่น้อยกว่า 75% ถ้าทำตามเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว ก็มีสิทธินำใบจองมาออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก., น.ส.3 ข.) หรือโฉนดที่ดินได้
ถ้าหากว่าผู้ที่เข้าครอบครองไม่ได้ทำประโยชน์ตามเวลาที่กำหนด ทางราชการจะให้ผู้นั้นหมดสิทธิในที่ดิน และจะมอบสิทธิให้คนอื่นแทน
นายประทวน สุทธิอำนวยเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ลพบุรี เขต.1 พรรคพลังประชารัฐ เพิ่มเติมกับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี ว่า ตนเองติดตามเรื่องนี้ให้กับประชาชนชาวนิคมสร้างตนเองลพบุรี อย่างเร่งด่วน ตามหนังสือ ที่ประชาชนทำเสนอรัฐบาล และจับจะตามเรื่องถึง กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย เพื่อตามหนังสือดังกล่าว เพื่อเสนอรัฐบาล ออกมาติด่วนออกโฉนดอย่างเป็นธรรม ตรงไปตรงมา ตนเองชื่อ ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยในเรื่องนี้
นายประทวน สุทธิอำนวยเดช
เปิดเผยเพิ่มเติมต่อว่า ชัดเจนว่า นับแต่นี้ต่อไปโฉนดที่ดินที่จะถึงมือประชาชนจะต้องมีคุณภาพที่ดี มีความถูกต้อง ไม่ออกรุกล้ำเข้าไปในเขตที่ดินของรัฐ และต้องออกให้แก่บุคคลที่เป็นเจ้าของที่ดินที่แท้จริงไม่ทับซ้อนกัน และการดำเนินการทางเทคนิคต้องไม่ผิดพลาด รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติตามกฎหมาย หากดำเนินการนอกลู่นอกทางจะต้องดำเนินการทางวินัยอย่างเฉียบขาดทันที จะมีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการทำแผนที่ มากำหนดพื้นที่ที่จะเข้าดำเนินการเดินสำรวจ โดยกำหนดพื้นที่เป็นระวาง และนำข้อมูลพื้นที่ดังกล่าวมาจัดทำเป็นแผน เสนอให้คณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณา โดยมีตัวแทนภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความเห็นชอบกับแผนดังกล่าว ป้องกันมิให้มีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินรุกล้ำเข้าไปในเขตที่ดินของรัฐ
ใจรัก วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี