เจ้าอาวาสวัดเกริ่นกฐิน วันการแพร่ระบาดของ ไวรัสCovid-19 ตัดสินใจประกาศงด งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อปานและหลวงพ่อเพี้ยน ประจำปี 2563 เหตุผลมีศิษย์ ทั้งไทยและเทศมารวมตัวกัน หลายหมื่นไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การเผยแพร่ นับเป็นปีแรกที่การงดจัดงานรำลึกถึง หลวงพ่อปาน และหลวงพ่อเพี้ยน อดีตพระเกจิชื่อดัง ที่โด่งดังมาจาก ผ้ายันต์แดง พญาเสือเผ่น ดังไปทั่วโลก
วันนี้ วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2563
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ค ภัทรภณ ยอดวัน ได้มีการออกประกาศโดย ข้อความที่โพสต์ดังนี้ วัดเกริ่นกฐิน ขอประกาศยกเลิกงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อปาน,หลวงพ่อเพี้ยน ในวันที่ ๑๓-๑๔ เม.ย. ๖๓ เพื่อให้ความร่วมมือกับทางฝ่ายบ้านเมืองลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อโรคโควิด-19
ประกาศ วัดเกริ่นกฐิน
เรื่อง การงด จัดงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อปานและหลวงพ่อเพี้ยน หลวงพ่อเปิ่น ประจำปี พ.ศ.2563
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Covid-19)” ที่ในประเทศจีน และอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในขณะนี้ ด้วยความห่วงใยของ วัดเกริ่นกฐิน คณะสงฆ์ วัดเกริ่นกฐิน โดยพระครูสังฆรักษ์ ภัทรภณ เขมปญฺโญ เจ้าอาวาส วัดเกริ่นกฐิน เป็นประธาน ได้หารือกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล พระนารายณ์มหาราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และคณะกรรมการการจัดงาน มีมติให้ “งด” การจัด งานประจำปีปิดทองหลวงพ่อปานและหลวงพ่อเพี้ยน ประจำปี พ.ศ. 2563 ทั้งนี้การงดการจัด งานประจำปี เป็นการให้ความร่วมมือกับทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีความกังวลใจในสถานการณ์การระบาดของไวรัสดังกล่าว เนื่องจาก งาน ปิดทอง หลวงพ่อปาน หลวงพ่อเพี้ยน นั้นมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากและทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรค และอาจนำไปสู่การระบาดออกไปในวงกว้างมากกว่าที่เป็นอยู่
ดังนั้นจึงประกาศมาเพื่อทราบ
ขอเจริญพร
พระครูสังฆรักษ์ ภัทรภณ เขมปญฺโญ
เจ้าอาวาส วัดเกริ่นกฐิน
สำหรับประวัติหลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม หรือ พระครูวิมลสมณวัตร เป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสของเมืองลพบุรี อายุครบ 90 ปี เมื่อปีที่ผ่านมา เจ้าตำรับสุดยอดเครื่องรางของขลัง ตะกรุดโทน และ ผ้ายันต์แดง เสือ สิงห์ ที่ มีประสบการณ์พุทธคุณกล่าวขานเลื่องลือกันไปทั่ว ทั้งในด้านเมตตา ค้าขาย ปกป้องคุ้มภัย มหาอุด และคงกระพันชาตรี เรื่องราวชีวิตและบทบาทของท่านนับว่าน่าสนใจ เพราะเป็นพระของชาวบ้านโดยแท้ ประวัติ หลวงพ่อเพี้ยน เกิดในสกุล ยอดวัด เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล พุทธศักราช 2470 ที่บ้านเกริ่นกฐิน ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ชีวิตในวัยเยาว์ หลังจบการศึกษาภาคบังคับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นก็ช่วยเหลือครอบครัวในการประกอบอาชีพทำนา จวบกระทั่งถึงวัยแห่งการครองเรือน แต่ภายหลังเกิดความเบื่อหน่าย จึงหันหน้าเข้าสู่เส้นทางธรรม ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2519 ณ พัทธสีมาวัดกำแพง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยมีหลวงพ่อเจือ เจ้าอาวาสวัดกำแพง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา อคฺคธมฺโม มีความหมายว่า ผู้มีธรรมอันยอดเยี่ยม
ภายหลังเข้ารับการอุปสมบท ได้ย้ายไปพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน เพื่อบำเพ็ญสมณกิจ สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา และได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อปาน เจ้าอาวาสวัดเกริ่นกฐิน ในยุคนั้น รวมไปถึงการได้ทบทวนสรรพวิชาเข้มขลังจากแผ่นดินกัมพูชา ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากโยมบิดาของท่าน สำหรับหลวงพ่อปาน พระเกจิเรืองอาคม เป็นพระภิกษุที่สัญจรมาจากประเทศกัมพูชาเช่นกัน ซึ่งหลวงพ่อปานได้กล่าวเน้นย้ำเป็นการเตือนสติอยู่เสมอว่า คนเราจะทำการใดๆ ต้องมีจิตที่มุ่งมั่น ตั้งใจในการศึกษา หัวใจของการศึกษาวิชาอาคมให้บังเกิดผล ถึงความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเริ่มที่สติ เมื่อสติมั่นคงก็จะบังเกิดเป็นสมาธิ สมาธิจะทำให้เกิดปัญญา สามารถทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเมื่อถึงขั้นนั้น จะทำสิ่งใดๆ ย่อมได้ผลดังนั้น เมื่อท่านได้ฝึกจิตตามแนวทางของหลวงพ่อปาน ทำให้การเรียนด้านวิชาอาคม บังเกิดความก้าวหน้า และได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านที่ประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดต่างๆ นานา โดยท่านได้ใช้อำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ รวมทั้งวิทยาคม ใครถูกคุณไสยมนต์ดำ อวิชชาชั้นต่ำไสยมนต์ดำ อวิชชาชั้นต่ำ สรรพวิญญาณดุร้ายเข้าสิงร่าง ใช้มนต์คาถากำราบ ใครเจ็บป่วยเป็นไข้ป่า ใช้ยาสมุนไพรรักษา สามารถพลิกผันเปลี่ยนขาวเป็นดำ บำบัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ ชื่อเสียงร่ำลือระบือไกล
ปี พ.ศ.2521 วัดเกริ่นกฐิน ร้างเจ้าอาวาสปกครอง ญาติโยมได้พากันไปร้องต่อพระผู้ใหญ่จังหวัดลพบุรี ขอให้แต่งตั้งหลวงพ่อเพี้ยน เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับการตอบสนองตามคำร้องขอเป็นอย่างดีภายใต้การปกครองดูแลวัดเกริ่นกฐิน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 จนถึงปัจจุบัน วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเพี้ยนไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ดำรงตนอย่างสมถะ เป็นพระชาวบ้านธรรมดา แต่ว่าเข้าถึงจิตใจคนทุกระดับชั้น ไม่มีการเลือกชั้นวรรณะของผู้ที่ขอเข้าไปกราบนมัสการ หลวง พ่อเพี้ยน ได้ย้อนอดีตถึงปฐมเหตุแห่งการเป็นพระผู้เสก ว่า ในคราแรก เลือกมาพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา เพื่อปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อปาน ที่กำชับเอาไว้ สิ่งที่เริ่มต้น คือ การเจริญภาวนาทำให้เกิดจิตที่มั่นคง เป็นสมาธิ วันหนึ่ง ในราวพรรษาที่ 3 ท่านมีกิจนิมนต์ ต้องเดินทางจากวัดไปยัง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี โดยเส้นทางจากหมู่บ้านเกริ่นกฐิน สู่ถนนสายหลักท่าโขลง-บ้านหมี่ ห่างไกลพอสมควร จำต้องเดินผ่านทุ่งนา ในบางช่วงต้องเดินผ่านป่าละเมาะ สองฟากทางรกทึบมาก หลวงพ่อเพี้ยน เดินทางออกจากหมูบ้านเกริ่นกฐินเพียงเล็กน้อย ได้พบเห็นการกระทำของโจรร้ายกำลังปล้นชิงทรัพย์ของชาวบ้าน แต่เจ้าทรัพย์ ต่อสู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายใช้มีดแทงจนถึงแก่ความตาย ไปต่อหน้าต่อตา ท่านบังเกิดความเวทนาต่อชาวบ้านผู้เคราะห์ร้ายเป็นยิ่งนัก เมื่อเดินทางกลับวัด ได้ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ความคิดว่า หากชาวบ้านผู้นั้นมีวัตถุมงคลคุ้มครองป้องกันตัว อาจแคล้วคลาดภยันตรายได้อย่างแน่นอน
ความคิดดังกล่าว ทำให้หลวงพ่อเพี้ยน มุมานะในการพลิกฟื้นตำรา ทั้งของโยมบิดาและหลวงพ่อปาน ที่ได้กำชับถึงหัวใจแห่งการร่ำเรียนวิชา โดยเฉพาะพระคาถาอาคม เมื่อรำลึกถึงคำสอน หลวงพ่อจึงเร่งในการภาวนาจิตอย่างจริงจัง และเริ่มทำการจัดสร้างของขลังเป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ใกล้ชิดเอาไว้เพื่อเป็นการป้องกันและคุ้มครองตัว เอง ได้แก่ “ตะกรุดโทน” กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุดโทน มิใช่เรื่องง่ายดาย แผ่นโลหะแต่ละแผ่น เมื่อได้จารอักขระเลขยันต์ตามตำรับ กว่าจะบรรลุเป้าหมายถึงขั้นนำไปใช้ได้ ต้องผ่านขั้นตอนพิธีกรรมอันสำคัญ คือ การจารตะกรุดใต้น้ำ หลวงพ่อเพี้ยนจะต้องดำลงใต้น้ำ เพื่อทำการจารอักขระ ซึ่งเป็นหัวใจของพระคาถาด้านมหาอุด และคงกระพันชาตรี ตะกรุดโทนหลวง พ่อเพี้ยน สร้างประสบการณ์ลือลั่นท้องทุ่งบ้านหมี่ รวมทั้งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในหมู่นักนิยมสะสมวัตถุมงคลของขลัง แต่ปัจจัยจากการเช่าบูชาทุกบาททุกสตางค์ หลวงพ่อไม่เคยนำเข้าพกเข้าห่อใช้จ่ายส่วนตัว แต่ท่านจะนำปัจจัยไปใช้ในด้านการพัฒนาวัดวาอาราม วัดเกริ่นกฐิน ในยุคหลวงพ่อเพี้ยน ปกครองเป็นเจ้าอาวาส ได้เกิดสิ่งใหม่ๆ มากมาย เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก อวดสายตาแก่ญาติโยม อาทิ ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ 2 ชั้น หอฉัน หอสวดมนต์ หอระฆัง กุฏิสงฆ์ ศาลาอเนกประสงค์ อุโบสถ เมรุ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ โดยตั้งกองทุนมาจากการสร้างพระกริ่งอัคคธัมโม และเหรียญบาตรน้ำมนต์ หลวงพ่อเพี้ยน มิได้มุ่งเน้นการพัฒนาภายในวัดของท่านเพียงอย่างเดียว ยังมองไปถึงปัญหาของชุมชนอีกด้วย อาทิ ได้สร้างถนนลาดยางจากถนนสายหลักท่าโขลง-บ้านหมี่ เข้าสู่หมู่บ้าน
นอกจากนี้ ในด้านการศึกษา ยังได้จัดสร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนวัดสระกระเบื้อง ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท อีกด้วย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2548 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา หลวงพ่อเพี้ยน ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ในราชทินนาม พระครูวิมลสมณวัตรเข้ารับพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ ณ วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา สร้างความปลาบปลื้มให้กับคณะศิษย์เป็นอย่างมากภายหลังเข้ารับการอุปสมบทได้ย้ายไปพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน เพื่อบำเพ็ญสมณกิจ สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา และได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อปาน เจ้าอาวาสวัดเกริ่นกฐิน ในยุคนั้น หลวงพ่อปานได้กล่าวเน้นย้ำเป็นการเตือนสติอยู่เสมอว่า คนเราจะทำการใดๆ ต้องมีจิตที่มุ่งมั่น ตั้งใจในการศึกษา หัวใจของการศึกษาวิชาอาคมให้บังเกิดผล ถึงความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเริ่มที่สติ เมื่อสติมั่นคงก็จะบังเกิดเป็นสมาธิ ทำให้เกิดปัญญา สามารถทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเมื่อถึงขั้นนั้นจะทำสิ่งใดๆ ย่อมได้ผล ดังนั้น เมื่อหลวงพ่อเพี้ยนได้ฝึกจิตตามแนวทางของหลวงพ่อปาน ทำให้การเรียนด้านวิชาอาคม บังเกิดความก้าวหน้า และได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านโดยทั่วไป เหรียญหลวงพ่อเพี้ยน รุ่นกฐิน จึงเป็นอีกเหรียญวัตถุมงคลที่ได้รับความศรัทธานิยมจากบรรดาเซียนพระเครื่อง
วัดเกริ่นกฐิน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในบ้านเกริ่นกฐิน ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าสร้างในปีพ.ศ.ใด แต่ชาวบ้านรู้ว่าวัดแห่งนี้มีคู่กับหมู่บ้านแห่งนี้มาเนิ่นนานแล้ว มีเพียงแต่พระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันเป็นที่พำนักของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดลพบุรี ในคราวที่หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม ท่านซึ่งเป็นพระที่จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดได้ร่วมกับชาวบ้านพร้อมใจกันขนานนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า หลวงพ่อปาน เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของพระภิกษุชราชาวเขมร ที่เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเพี้ยนนั่นเอง เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้วตอนที่หลวงพ่อเพี้ยนท่านเป็นเจ้าอาวาสใหม่ๆอยู่นั้นวัดแห่งนี้นั้นมีเพียงศาลาเรือนไทยหลังเก่าๆอยู่หลังเดียวเท่านั้น และมีสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก
ซึ่งทุกปีจะมีลูกศิษย์กลับมารวมตัวกันมหาศาลจากทั่วสารทิศทั้งไทยและต่างชาติ ที่จะกลับมาที่ว วัดเกริ่นกฐิน ทุกปี เป็นที่รู้กันโดยมีจะมีลูกศิษย์เรือนหมื่นกลับมารวมตัวกันใน งานประจำปีงานปิดทองหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อเพี้ยน เพื่อลำลึกถึงครูบาอาจารย์ โดยความพิเศษคือการที่บรรดา ลูกศิษย์ และถวายตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อเพี้ยน ทางวัดต้อง ต้องมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่นับร้อยคนมาช่วยในการดูแลความเรียบร้อยเป็นที่ตื่นตา สนใจงานประจำปี ปิดทอง หลวงพ่อปานและหลวงพ่อเพี้ยน ของชาวโลกทุกปี
ใจรัก วงศ์ใหญ่
สำนักข่าวเดลิซันเดย์
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี