จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้วงการอสังหาริมทรัพย์คาดการณ์ว่า กำลังซื้อในตลาดกลาง-ล่าง จะได้รับผลกระทบในครึ่งปีหลัง และมีแนวโน้มลากยาวถึงปี 2560 ทำให้ดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ต่างหันมาเน้นเจาะตลาดบน หรือบ้าน-คอนโดฯ ระดับราคา 7-10 ล้านบาทขึ้นไป ที่ยังมีความแข็งแรง และกลายเป็นตลาด”เรดโอเชียน” และเกิดการแย่งชิงซื้อที่ดินทำเลใจกลางเมืองที่เหลือน้อยเต็มที แม้ที่ดินจะถูกปั่นราคาพุ่งสูงขึ้นมากก็ตาม
โดยราคาประเมินที่ดินรอบบัญชีปี 2559-2562 ของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง พบว่า ราคาสูงสุดเป็นพื้นที่ ถ.สีลม (แยกศาลาแดง-แยกนราธิวาสราชนครินทร์) อยู่ที่ 1 ล้านบาท/ตร.ว. เพิ่มขึ้น 17.65 % ถ.ราชดำริ (แยกราชประสงค์-คลองแสนแสบ) ถ.พระรามที่ 1 (แยกปทุมวัน-แยกราชประสงค์)และ ถ.เพลิตจิต ตลอดสายอยุ่ที่ 900,000 บาท/ตร.ว. จากเดิม 8 แสนบาท/ตร.ว.
ถ.ราชดำริ (แยกศาลาแดง-แยกราชประสงค์ )ถ.วิทยุ(ช่วงถ.เพลินจิต-ถ.พระรามที่ 4 )และ ถ.สาทร (ช่วง ถ.เพลินจิต-ถ.พระราม ที่ 4 )และ ถ.สาทร(ช่วงพระรามที่ 4 -ถ.สุรศักดิ์) ประเมินอยู่ที่ 750,000 บาท/ตร.ว. จากเดิม 6 แสน-7 แสนบาท/ตร.ว.
ขณะเดียวกันก็มีบริษัท อสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งให้ข้อมูลกับ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ราคาที่ดินใจกลางเมืองมีแนวโน้มแพงขึ้นต่อเนื่อง เช่น ที่ดินขนาด 3 ไร่ ปากซอยสุขุมวิท 6 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา ตั้งราคาขายถึง 2.5 ล้านบาท/ตร.ว.
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นตึกร้าง 30 ชั้น บนที่ดิน 2 ไร่ ปากซอยสุขุมวิท 27 ที่น่าจะมีราคาสูงเช่นกัน แต่ยังไม่มีการเสนอขาย นอกจากนี้ ยังมีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 ไร่ บน ถ.พระรามที่ 4 ข้างตึกอื้อจือเหลียง เสนอขายสูงสุดในตอนนี้อยู่ที่ตร.ว.ละ 3 ล้านบาท
ทั้งนี้มีรายงานข่าวด้วยว่า ไพรมแอเรียที่ดีเวลปเปอร์ต้องการซื้อนั้น จะอยู่ช่วงสถานีบีทีเอสชิดลม-เพลินจิตแต่แลนด์แบงก์เหลือน้อยมาก