เมื่อกลางดึกวันที่ 3 มีค.ที่ผ่านมาขณะที่นายวินัย ทุมกองแก้ว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54
ม.3 ต.วังท่าช้างอ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี ช่างซ่อมทีวี กำลังนอนหลับอยู่ในบ้านทันใดนั้นได้ยินเสียงหมาส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดคล้ายขอความช่วย
เหลือ ขณะนั้นจำเสียงได้ว่าเป็นเสียงร้องของหมาที่บ้านจึงรีบลุกออกมาส่องดูทางต้นเสียงที่หมาร้อง เห็นว่าหมาส่งเสียงร้องอยู่อีกฝั่งของถนนผ่านหมู่บ้านห่างจากหลังบ้าน 30 ม.ขณะออกมาซุ่มยืนดูอยู่ในความมืดเห็นหมาของเพื่อนบ้านและหมาของตนเอง 3-4 ตัว กำลังยืนล้อมหมาตัวหนึ่งที่นอนอยู่ จากนั้นตนส่งเสียงตะโกนไล่หมาพากันหนี
ไป ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับเข้าบ้าน หมาของตัวเองตัวหนึ่งวิ่งมาหาและส่งเสียงคราง
ขณะนั้นตนยังไม่คิดอะไร
ทันใดนั้นสายตายมองเห็นบางอย่างเสียบติดขาหมาของตัวเอง เมื่อมองดูถึงกับใจหายเอา
มือจับดูรู้สึกตกใจมากมันคือลูกดอกที่ใช้กับหน้าไม้สำหรับยิงหนูเสีบคาที่ขาขวาของเจ้า
ตูบที่เลี้ยงไว้ จากนั้นรีบเรียกลูกสาวใก้เอาไฟฉายมาส่องให้เพื่อที่จะช่วยเจ้าตูบที่ถูกยิงมาคาดว่าคนมาส่องหนูหรือหาปลาข้างคลองหลังบ้านยิงเจ้าตูบ เจ้าตูบเห็นแสงไฟจึงเห่าคนส่องหนูหรือหาปลาโมโหจึงใช้ธนูหรือปืนหน้าไม้ยิงเจ้าตูบ เดชะบุญลูกธนูหรือหน้าไม้
ถูกบริเวณข้อพับขาขวาหากสูงขึ้นมาอีก 1นิ้วปลายเหล็กแหลมจะพุ่งเสียบชายโครง อาจทำให้เจ้าตูบเสียชีวิตที่ใดที่หนึ่ง หรืออาจวิ่งมาตายที่หน้าบ้านก็ได้ คืนนั้นด้วยความตกใจรีบดึงลูกหน้าไม้นั้นออกจึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้
เกตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงคาดว่าน่าจะเป็นคนในหมู่บ้านแต่ไม่รู้ว่าเป็น
ใคร เจ้าตูบเป็นหมาแสนรู้ไม่ดื้อ ตนเลี้ยงไว้กับเพื่อนของมัน 2-3 ตัวอยากบอกถึงคนทั่วไปว่าอย่าคิดทำร้ายสัตว์แบบนี้เลย ชีวิตใครใครก็รักสัตว์ไม่รู้หรอกว่าใครมาส่องไฟในเวลา
กลางคืน นับว่าโชคดีที่เจ้าตูบไม่เป็นอะไรมากกว่านี้…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์
