“นปช.”แถลงรับผลประชามติ ชี้เแพ้เพราะกติกา ยกคำคม”ท่านไม่ได้แพ้ แต่ท่านอยู่ในสงครามที่ไม่มีสิทธิ์รบชนะต่างหาก” ซัดรธน.ใหม่จะสร้างความขัดแย้งครั้งใหญ่
– 7 ส.ค. 59 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.พร้อมแกนนำ นปช. ร่วมกันแถลงถึงผลการทำประชามติอย่างไม่เป็นทางการ ว่า พวกตนติดตามการทำประชามติตั้งแต่ต้น รู้ทั้งรู้ว่าเป็นกติกาที่ยากจะได้รับชัยชนะ แต่ก็ยังกล้ำกลืนต่อสู้ เมื่อผลลัพธ์ออกมาพวกตนก็มีจิตใจเป็นนักกีฬาเพียงพอ แม้เป็นเรื่องยากหลังจากนี้เราจะทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองไทย ขอฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่า แม้วันนี้ดูเหมือนท่านจะชนะ แต่เป็นชัยชนะที่ไม่น่าภาคภูมิใจ เพราะผู้แพ้ไม่ได้มีโอกาสเช่นเดียวกับท่าน
ส่วนภาพรวมการนับคะแนนหลายหน่วยนั้น จะเห็นได้ชัดว่าไม่มีการเข้าไปสังเกตการณ์ มีเพียงเจ้าหน้าที่นับคะแนน 1-2 คน ดูกันเอง สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในสภาพนี้ แต่เราไม่ได้มีพฤติการณ์เป็นพวกขี้แพ้ขวนตี ค่ำคืนนี้คสช.อาจจะมีความสุข แต่แน่นอนคำถามพ่วง เราจะมี สว.แต่งตั้งไปเลือกนายกฯ เราจะได้นายกฯ คนนอก สส.ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดนกันถ้วนหน้าไม่เว้นแม้แต่หน่วยของนายชวน หลีกภัยใน จ.ตรัง ไม่มีเหตุผลตามหลักคณิตศาสตร์ พรรคการเมืองทุกพรรคไม่มีใครรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ผลลัพธ์สวนทางกันหมด เมื่อคะแนนสวนทางกับความตั้งใจ เราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะโวยวาย
นายจตุพร กล่าวว่า ตนไม่ต้องการให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยมีความรู้สึกเสียขวัญและพ่ายแพ้ ท่านไม่ได้แพ้ แต่ท่านอยู่ในสงครามที่ไม่มีสิทธิ์รบชนะต่างหาก ท่านไม่ได้พ่ายแพ้แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ยังเป็นประชาชนเหมือนเดิม ตนขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ร่วมทุกข์กันในช่วงการทำประชามติ คืนนี้ขอให้คสช.นอนหลับอย่างอบอุ่นและสบาย ตนทราบว่าในวันพรุ่งนี้(8 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จะมีการแถลง ไม่ทราบว่าท่านจะคงศูนย์รักษาความสงบหรือไม่ เพราะจากนี้ไปคาดว่าจะมีคนไม่ยอมรับ ถ้าไม่มีการพบทุจริตก็ไม่มีใครไปเปลี่ยนแปลงคะแนนได้ วันนี้เราไม่เห็นแต่วันพรุ่งนี้เราอาจจะเห็น ซึ่งหากไม่มีเรื่องนี้เลยเราก็ต้องอยู่กันไป 20 ปี ไม่ใช่ก้มหน้ารับชะตากกรม แต่ต้องเชิดหน้ารับชะตากรรม
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐธรรมนูญนี้หากเดินหน้าใช้จะนำไปสู่ปัญหาต่างๆ อีกมากมาย นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่อีกครั้ง แต่ยอมรับการตัดสินใจของประชาชน เราเคารพและพร้อมยอมรับการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ แต่ภารกิจการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังไม่ยุติ และยังเดินหน้าต่อไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดยอำนาจเผด็จการแล้วประชาชนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2550 และไม่ใช่ประเทศแรกที่อำนาจเผด็จการสามารถกำหนดผลประชามติให้เป็นไปตามที่ตนเองต้องการได้