พระร่วงหลังรางปืน ขึ้นชื่อลือเลื่องต่อพระเครื่องว่าเป็นสุดยอดในยอดสุดของชุดพระกรุเนื้อชิน บางคนเคยได้ยินเพียงนาม แต่มิอาจสัมผัสเห็นด้วย ประเด็นหลักล้วนๆ คือจำนวนมีน้อยมาก ประเภทลอยจากฟ้าลงมาให้จับต้องนั้นเป็นอันเลิกหวัง เมื่อครั้งเริ่มแรก ได้พูดแยกแยะถึงหลายอย่างเกี่ยวกับพระร่วงรางปืน (ปางยืนประทานพร) ค่อนข้างเยอะ โดยเจอะกรุที่สุโขทัยพบที่ลพบุรี อันเป็นศูนย์กลางพระร่วงรางปืนแท้จริง ยิ่งส่องต้ององค์ยิ่งหลงรักจะด้วยศักดิ์สิทธิ์แห่งการทำหรือศิลปกรรมมาดเทวราชก็แล้วแต่ ที่แน่ๆ เนื้อชินตะกั่วสนิมแดงนี้มีความสวยงามลึกซึ้ง เมื่อถึงกาลตกผลึกเนื้อสารลงตัว อย่างเต็มประสิทธิผลบนประสิทธิภาพ
รอดตายเพราะพุทธคุณของพระร่วง”
มีคนเป็นคนจำนวนมากเชื่อว่า อำนาจของพระพุทธคุณที่มีอยู่ในพระเครื่อง สามารถคุ้มครองให้ผู้สวมใส่ แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงได้อย่างน่าพิศวง
พระพุทธคุณในพระเครื่องก็ยังจำแนกแยกออกได้อีกหลายประการ อย่างเช่นพระสมเด็จวัดระฆัง คนทั่วไปเข้าใจว่า ใครก็ตามหากสวมใส่พระสกุลดังกล่าว มักจะแคล้วคลาด ปลอดภัยและไม่ตายโหง
ในความเป็นจริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ผู้เชี่ยวชาญในวงการพระเครื่องคนหนึ่ง บอกกับผมว่า พระสมเด็จวัดระฆังไม่ได้มีพระพุทธคุณถึงเพียงนั้น
“พระเครื่องไม่ใช่เครื่องรางของขลังชนิดครอบจักรวาล พระเครื่องสกุลหนึ่งก็มีพระพุทธคุณอย่างหนึ่ง แต่คนทั่วไปมักจะเข้าใจว่าพระเครื่องเป็นของวิเศษ หามาใส่องค์เดียวก็จะดีไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี คนที่จะใช้พระเครื่องจะต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ อย่าได้สับสนเป็นอันขาด”
นายใจรัก วงศ์ใหญ่ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี ได้ มีโอกาสเข้าไป เข้าไปกราบนมัสการพระเดชพระคุณ พระครูประภัสร์ สุตคุณ(พระครูสุทัศน์) ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง ท่านได้มอบให้ผม 1 องค์ พระร่วงรางปืน เนื้อชินที่ท่านปลุกเสกเองและสร้างเองเพื่อแจกจ่ายให้ ศิษยานุศิษย์ ที่เข้ามา มัสการ กราบไหว้ท่านที่ ที่วัดฯ ท่านเป็นพระที่มีเมตตามีแต่ให้ ท่านเมตตามอบ พระร่วงรางปืน เนื้อชินเงิน 1 องค์ให้ผม เอาไว้ป้องกันตัว ความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้รอดตายมาหลายครั้งเพราะพระของท่านนั่นเอง ผมมีโชคลาภก้อนเล็กก้อนใหญ่ เพราะพระร่วงรางปืนได้รับจากมือจาก พระเดชพระคุณ พระครูสุทัศน์ 89 พรรษา
ความศักดิ์สิทธิ์มีจริงในโลกนี้
พระร่วงเป็นพระที่มีลักษณะค่อนข้างใหญ่ รูปทรงขององค์พระแลดูไม่สวยงาม ดังนั้นพวกที่นิยมห้อยพระเพื่อ “แฟชั่น” จึงมองข้ามพระร่วงไปอย่างน่าเสียดาย
จังหวัดลพบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีการขุดพบพระร่วงมากที่สุด สถานที่ขุดพบพระร่วงได้แก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่ขอมยังเรืองอำนาจ หรือเมื่อประมาณ พ.ศ.1600
พระร่วงที่ขุดพบเป็นพระร่วงพิมพ์หลังลายผ้า นับว่าเป็นต้นตระกูลของพระเครื่องสกุลพระร่วงทั้งปวง เนื้อขององค์พระเป็นตะกั่วสนิมแดง อายุประมาณ 800-900 ปี
ศิลปะขององค์พระที่ปรากฏ
พระร่วงหลังลายผ้า เป็นพระเครื่องพิมพ์เดียวที่ช่างศิลปะแห่งเมืองละโว้ได้สร้างขึ้น เป็นพระเครื่องที่ผู้พบเห็นจะเกิดความน่าเกรงขาม
พระพุทธคุณของพระเครื่อง
………..สำหรับพระพุทธคุณของพระร่วงหลังลายผ้า ในแวดวงนักเล่นพระต่างยกย่องว่า พระสกุลดังกล่าวมีพระพุทธคุณในทางคงกระพันชาตรี
พระร่วงกรุทั่วไป
จังหวัดลพบุรีนั้นเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ มีการสร้างและบรรจุพระเครื่องไว้แทบจะทุกอาณาบริเวณ ดังที่เรามักจะพบว่ามีการขุดพบพระเครื่องกรุเก่าตามสถานที่ต่างๆ อยู่เนืองๆ เป็นต้น
-วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
-โรงเรียนช่างกล
-กรุวิหารกรอ
-กรุวิหารคต
-กรุเจดีย์เล็ก
-กรุวัดไผ่แหลม
-กรุวัดปืน
-กรุวัดใหญ่
-กรุถ้ำมหาเถร
-กรุวัดอินทราราม
..พระร่วงหลังลายผ้า กรุวัดพระศรี ฯ ถ้าหากสภาพสวยจริงๆ (และเป็นพระแท้) ราคาที่เช่าหากันจะสูงถึงหลักล้านเลยทีเดียว
เซียนพระคนหนึ่งแนะนำคนที่คิดจะเล่นพระ “หลักแสน-หลักล้าน” ผ่านผมด้วยความหวังดีว่า
“อย่าไปสนใจเลย พระเครื่องที่ดังๆ และมีราคาแพง น่ากลัวจะตายไป ใส่ก็ต้องคอยระวังตัว ไม่มีความสุข สู้หาพระเครื่องดีๆ ที่ราคาไม่แพงมาใส่ดีกว่า เรื่องพระพุทธคุณก็ไม่ได้แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย และยังแน่ใจอีกด้วยว่าเป็นพระแท้ ไม่ใช่พระปลอมหรือพระเลียนพิมพ์”
สำหรับสถานที่เช่าพระเครื่องหรือวัตถุมงคล เซียนพระคนนั้นบอกว่า
“ไปเช่าตามศูนย์พระเครื่อง หรือหากมีเวลาก็ไปเช่าที่วัด ราคาอาจจะไปไกลสักหน่อย แต่ตัดปัญหาเรื่องพระปลอมออกไปเลย หากว่ามาเช่าถึงวัดแล้วเจอพระปลอม ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรอีกแล้ว”
ประสบการณ์พระ เกิดเหตุกับตัวเอง ทำให้ ได้ทราบว่า พระเครื่องจะขลังหรือไม่นั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ความเชื่อมั่นของผู้ใส่ (บางคนเรียกว่าใช้พระเครื่อง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม เพราะคนธรรมดาจะ “ใช้” หรือ “สั่ง” ให้พระเครื่องทำสิ่งนั้น ทำสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง)
บ่ายวันนั้นผมได้ไปทำข่าว นอกพื้นที่ในจังหวัดสระบุรี ได้เดินทางไปทำธุระ ที่ นครราชสีมา ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า วันนี้จะพบกับเหตุการณ์ที่ตัวเอง หวิดจะเอาชีวิตไปทิ้ง !
“รถทีมข่าว ผมได้นั่งมานั้นเป็นรถ ตะเวนข่าว ทีแรกก็ว่าจะนั่ง นั่งรถตัวเองแต่จอดทิ้งเอาไว้ที่สำนักงาน ตอนที่อยู่บนรถก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งรถวิ่งข้าม ถนน พุแค ซึ่งพวกชาวบ้านเรียกว่าถนนผีสิง สะถนนแห่งนี้มีคนตายเป็นประจำ ตอนนั้นรถ ตะเวนข่าว ขับมาเร็วมาก ..ได้ยินเสียงคนกระซิบที่ข้างๆ หูว่า ระวังให้ดีรถกำลังจะคว่ำ ความรู้สึกในขณะนั้นเหมือนรถกำลังเสียหลัก คนขับประคองรถไม่อยู่ คนขับก็เป็นเพื่อนผมเอง แน่ใจว่ารถจะต้องคว่ำอย่างแน่นอน ตอนนั้นนึกถึงพระ พระร่วงรางปืนของพระครู สุทัศน์ที่เราห้อยอยู่เป็นประจำ
ซึ่งเป็นพระร่วง สร้างและปลุกเสกโดยหลวงพ่อสุทัศน์ หรือ พระครูประภัสร์ สุตคุณ (พระครูสุทัศน์) ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง
ตอนที่รถ ตะเวนข่าว มันพลิกคว่ำคิดว่าเราคงจะตายอย่างแน่นอน เพราะรถมันตีลังกาหลายตลบ เสียงมันดังเหมือนกับฟ้าผ่า จากนั้น ก็เหมือนกับฝันไป เลย จะรอดหรือตาย เดชะบุญ รอดมา ปาฏิหาริย์ รอดตายเหลือเชื่อ
โดยที่ตามเนื้อตัวไม่มีร่องรอยของบาดแผลปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย
ตัวผมเองมั่นใจว่า ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ด้วยอำนาจของพระเครื่องที่ตังเอง สวมใส่อยู่เป็นประจำ ทำให้ตัวผมเอง รอดปลอดพ้นจากเงื้อมือของมัจจุราชอย่างเฉียดฉิว พระร่วงหลังรางปืนที่ผมใจรัก วงศ์ใหญ่ ห้อยอยู่บนคอตลอดเวลา ไม่ทีให้เช่าที่วัดฯ เผด็จพระคุณ พระครูประภัสร์ สุตคุณ (พระครูสุทัศน์) ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง . ท่านทำแจก ให้แก่ศิษยานุศิษย์เท่านั้น สร้างและปลุกเสกโดย พระครูประภัสร์ สุตคุณ (พระครูสุทัศน์) ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พระอารามหลวง . ท่านเป็นพระปฏิบัติ นั่งปลุกเสก เป็นพระร่วงรางปืนพระที่โด่งดัง ส่วนใหญ่จะอยู่ในบรรดา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และพ่อค้าประชาชนเท่านั้น ของจังหวัดลพบุรี นั่นเอง
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี