ความปรารถนาดีจากตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี 10 มาตรการ “รสขม” ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ให้นโยบาย ให้กวดขัน กฎหมายจราจรอย่างเข้มข้น ตามนโยบาย 10 มาตรการ
พ.ต.ท.ณัฏฐพล ศรีวิเชียร สว.จร.สภ.เมืองลพบุรี ได้เปิดใจกับ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี ว่า เน้นย้ำ ตำรวจจะเข้มงวด จริงจัง ต่อเนื่อง 10 ข้อหาหลัก 10 มาตรการตามนโยบายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่างเข้มข้น ( #10รสขม )
ได้แก่ 1ร – ขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 2ส – ขับขี่รถย้อนศร – ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 3ข – ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย – ไม่มีใบขับขี่ – แซงในที่คับขัน 4ม – ขับขี่รถในขณะเมาสุรา – ไม่สวมหมวกนิรภัย – ไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์(มอเตอร์ไซค์)ดัดแปลง – ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ
ผู้ใดฝ่าฝืนทำผิดกฎหมายจราจรทางบกจะมีโทษตามกฎหมายและจะมีราคาแค่ปรับ
พ.ต.ท.ณัฏฐพล ศรีวิเชียร สว.จร.สภ.เมืองลพบุรี เปิดเพิ่มเติมไปว่า
ตามมาตรการ 10 ข้อ มีดังนี้
1.ไม่สวมหมวกนิรภัย มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
2.ขับรถขณะเมา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท
3.ความผิดเกี่ยวกับอุปกรณ์และส่วนควบของรถ มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
5.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
6.ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
7.ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
8.ขับรถย้อนศร มีโทษปรับตั้งแต่ 200-500 บาท
9.แซงในที่คับขัน มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท
10.ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ซึ่งล้วนเป็นข้อหาที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามนอกจาก 10 ข้อหาหลักนี้แล้ว ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ควรปฏิบัติตามกฎจราจรข้ออื่น ๆอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อความปลอดภัยจะลดการเกิดอุบัติเหตุ
พ.ต.ท.ณัฏฐพล ศรีวิเชียร สว.จร.สภ.เมืองลพบุรี ฝากถึง
มารยาทในการขับรถเบื้องต้น ที่ผู้ขับรถ ควรรู้และปฏิบัติตาม
มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง
ถนนเป็นของสาธารณะที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนใช้ร่วมกัน ฉะนั้น คุณในฐานะผู้ขับขี่คนหนึ่งควรแสดงน้ำใจต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกับเราด้วย อาทิ ไม่จอดแช่เลนขวา ไม่ขับรถแซงคิวแทรกเข้าตรงเชิงสะพาน ลดความเร็วเมื่อเข้าเขตชุมชน (หมู่บ้าน/ตลาด/โรงเรียน) ไม่จอดรถในที่ห้ามจอด หรือจอดรถกีดขวางการจราจร และที่สำคัญ ไม่ควรเร่งเครื่อง เมื่อเห็นว่ามีคนรอข้ามทางม้าลาย
ใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอก เมื่อมีความจำเป็น
ผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดไฟสูงโดยไม่จำเป็น เนื่องจากแสงไฟจะไปรบกวนเพื่อนร่วมท้องถนน ส่วนช่วงเวลาที่ควรใช้ไฟสูงนั้น ควรเป็นตอนที่ขับรถเข้าสู่ถนนหรือเส้นทางที่มีแสงสว่างไม่พอ
ขณะที่ไฟตัดหมอกนั้น ควรเปิดใช้ในกรณีที่มีหมอกหรือฝนตกหนัก จนทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ต่ำลงเท่านั้น แต่หากพลั้งเผลอเปิดไฟตัดหมอกโดยไม่จำเป็น แสงไฟอาจไปแยงตาผู้ขับขี่ที่ขับรถสวนเลนมา จนนำไปสู่อุบัติเหตุ เพราะแสงไฟตัดหมอก มีประสิทธิภาพความสว่างจากกว่าการเปิดไฟสูง
ไม่ควรเหยียบเบรกบ่อย
เนื่องจากสภาพการจราจรที่คับคั่งในเมืองกรุง ประกอบกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์ต้องค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปทีละนิด ส่งผลให้รถหลายครั้งต้องคอยแตะเบรกตลอด ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ต่างไปจากปฏิกิริยาลูกโซ่ เพราะเมื่อรถคันหนึ่งเหยียบเบรก รถที่ขับตามมาก็ต้องเหยียบเบรกด้วยเช่นกัน
และพฤติกรรมเหยียบเบรกบ่อย ๆ ยังอาจทำให้ระบบเบรกของรถคุณเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เป็นผลให้รถของคุณมีความเสี่ยงจะ “เบรกแตก” สูงตามไปด้วย
ไม่ควรขับรถจี้ท้ายรถคันหน้า
การขับรถแบบจี้ท้ายคันหน้า เสี่ยงต่อการชนท้ายเป็นอย่างมาก และหากเกิดขึ้นผู้ที่ขับรถชนท้ายมักจะเป็นฝ่ายผิด ฉะนั้น คุณควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าตามระยะเบรกที่ปลอดภัย
โดย “ระยะเบรกที่ปลอดภัย” นั้น อาจพิจารณาตามสภาพแวดล้อมก็ได้ อาทิ คุณกำลังขับรถขึ้นดอยม่อนแจ่ม ที่เป็นเนินชัน และมีจุดโค้งหักศอก ก็ควรทิ้งระยะห่างจากคันหน้าในระยะทางที่มากกว่าเดิม จากเว้นระยะ 20-30 เมตร ขยับมาเป็น 50-60 เมตร หรืออาจมากกว่านั้น เพื่อป้องกันกรณีที่รถคันหน้าไหลถอยหลังมาชนคุณ
รู้จักขอบคุณและขอโทษเพื่อนร่วมทาง
เมื่อเจอเพื่อนร่วมทางที่มีน้ำใจต่อเรา ไม่ว่าจะช่วยให้ทางหรือช่วยหรี่ไฟสูงลงมา ก็ควรแสดงความขอบคุณด้วยการโค้งศีรษะและยิ้มให้ หรือจะใช้วิธีเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินก็ได้
ในทางกลับกัน เมื่อมีรถหยุดให้คุณเดินข้ามถนน ก็ควรโค้งศีรษะขอบคุณเช่นกัน แม้การแสดงความขอบคุณกับเพื่อนร่วมทางอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็สามารถสร้างความรู้สึกดี ๆ บนท้องถนนได้
แล้วถ้าเป็นกรณีที่เราเผลอทำพฤติกรรมที่ไม่ดี อย่างเปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับรถตัดหน้ารถคันอื่นล่ะ หากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ควรทำเพื่อลดความตึงเครียดที่อาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาท คือ การโค้งศีรษะ ยกมือ หรือเปิดไฟกระพริบ เพื่อขอโทษเพื่อนร่วมทาง
แต่หากบังเอิญรถของคุณติดฟิล์มดำมืดจนมองไม่เห็นว่า มีใครอยู่บนรถบ้าง ก็อาจใช้วิธีเปิดกระจกเพื่อขอบคุณหรือขอโทษก็ได้
เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้ง เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน
ผู้ขับขี่ทุกคน ควรย้ำกับตัวเองบ่อย ๆ ว่า รถของเรามีไฟเลี้ยวที่สามารถเปิดใช้งานได้จริง ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือเปลี่ยนเลน ก็ต้องเปิดไฟเลี้ยวก่อนทุกครั้ง เพื่อให้รถคันอื่น ๆ ชะลอให้รถของคุณเข้าไปยังเส้นทางที่ต้องการ ไม่ใช่ใจนึกอยากจะไป ก็ไปได้ทันที นอกจากเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุแล้ว คุณจะยังได้เสียงก่นด่าไปถึงบรรพบุรุษตามหลังมาแน่ ๆ
ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อย่าลักไก่กลับรถในที่ห้ามกลับรถ หรือเบี่ยงจากช่องทางหลักเข้าช่องคู่ขนาน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า จุดดังกล่าวมีเครื่องหมายจราจรระบุให้ รถที่วิ่งในช่องคู่ขนานสามารถเบี่ยงเข้าช่องทางหลักเท่านั้น
พฤติกรรมชอบฝ่าฝืนกฎจราจรเหล่านี้ นอกจากสร้างความสงสัยกับเพื่อนร่วมทางว่า คุณซื้อใบขับขี่ มาหรืออย่างไร ? ยังเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และหากเกิดเหตุขึ้นจริง นอกจากเจ็บตัว รถพัง เจอทั้งโทษจำคุกหรือปรับ และถ้าร้ายแรงมาก ก็อาจถึงขั้นเสียชีวิต (อาจเป็นคุณ/คู่กรณี) ได้
เมาแล้วขับ
“เมาแล้วขับ” เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่จะนำพาเรื่องเลวร้ายชนิดคาดไม่ถึงมาสู่ตัวคุณ ครอบครัว และเพื่อนร่วมทางได้ง่ายดายที่สุด ดังนั้น หากรู้ตัวว่า “เมา” ก็ควรใช้บริการรถสาธารณะในการเดินทาง หรือคุณจะโทรให้คนที่ไว้ใจมารับแทนการขับรถเองก็ได้
เล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
รู้หรือไม่ว่า การเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ติดไฟแดง หรือรถติดเพราะมีอุบัติเหตุกีดขวางการจราจร ล้วนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น เนื่องจากสมาธิที่ควรเพ่งอยู่กับการขับรถ ถูกย้ายไปอยู่กับโทรศัพท์มือถือแทน
บางคนอาจคิดว่า “ทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” หรือ “รถติดแบบนี้ ใคร ๆ ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นทั้งนั้น” หากคุณกำลังคิดเช่นนี้ ขอเตือนเลยว่า คุณกำลังประมาทอย่างแรง เพราะขนาดผู้ที่มีประสบการณ์ขับรถมานับ 10 ปี ก็ยังประสบอุบัติเหตุได้เลย
ที่สำคัญคุณอาจลืมไปว่า ต่อให้คุณระมัดระวังเพียงใด ก็ไม่ได้รับประกันว่า เพื่อนร่วมทางของคุณจะขับรถอย่างระมัดระวังเช่นกัน
ฉะนั้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ คุณควรงดเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้งานโทรศัพท์มือถือจริง ๆ ก็ให้หาจุดที่ปลอดภัยเพื่อจอดรถเสียก่อน
ขับรถคร่อมเลน
คือ การขับรถคร่อมเลนกินพื้นที่จราจร จะไปซ้าย ก็ไม่ซ้าย จะไปขวา ก็ไม่ขวา พฤติกรรมแบบนี้ ไม่น่ารอดจากการโดนด่า หรือไปรบกวนการขับของรถคันอื่น
ดังนั้น ทุกครั้งที่เข้าไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ขอให้คุณใส่ใจความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมทางให้มาก ๆ เพราะไม่ว่าใครก็มีคนที่รักรออยู่ที่บ้านทั้งนั้น
ใจรัก วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี