วันที่ 16 กพ.63 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี พบเห็น 2 หนุ่มสาวดำลังก้มหน้า
ก้มตาเดินเท้ามาตามถนนสาย 304 ขาล่องฉะเชิงเทรา บริเวณก่อนถึง ร.ร.สายมิตร
ศึกษา ต.กบินทร์อ.กบินทร์ จ.ปราจีนบุรีท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้าเหงื่อไหนรินและท่าทางอ่อนแรงจึงจอดรถสอบถาม ทราบชื่อนายจำเริญ สุภะตะ อายุ 36ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่
78 ม.1 ต.หนองตำรึงอ.พานทอง จ.ชลบุรี(บ้านแม่) และนางแถวสีทอง อายุ 53 ปี อยู่
บ้านเลขที่ 7 ม.6 ต.ดุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์สามีภรรยากัน โดยนายจำเริญ กล่าวว่า ตนพา
ภรรยาเดินทางไปทำงานกับนายจ้างผู้รับเหมารายย่อยที่รู้จักกันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากับเพื่ิอนร่วมงาน 4-5 คนที่ตัวเมืองโคราชนายจ้างได้หยิบยืมเงินตนเองเพิ่มเติมเพื่อจัด
ซื้ออุกปรณ์ต่อเติมภายในบ้าน พอเงินออกตนก็จะขอเบิกเงินค่าแรงแต่นายจ้างแอบหนีไปแล้วทิ้งพวกตนกับลูกน้อง2-3 คนไว้ที่ทำงาน
เมื่อนายจ้างปิดห้องหนีแบบนี้ตนจึงจัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านดีกว่าพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน
ต่างคนต่างกลับบ้านเกิด สองสามีภรรยาบอกว่าเดินทางมาตามทาง 4 วัน ยังไม่มีใครจอดรถถามสักคนหิวก๋หาเก็บมะขามริมทางยอดกระถินกินประทังความหิว มีบ้างขอข้าว
เขากิน และขอข้าวพระที่เดินบิณฑบาตรกินเช้ากิน
ขณะที่หยุดพักที่ศาลาที่พักผู้โดยสารพลเมืองดีเห็นจึงทำข้าวกล่องมาให้กินจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ส่งขึ้นรถไปรอรถที่ท่ารถอีกต่อหนึ่ง
นายจำเริญ กล่าวว่าจะไม่ทวงถามเงินที่เถ้าแก่คนรู้จัก 7,000บาททั้งเก่าใหม่ถามไป
ก็ไม้ได้ เพราะที่ผ่านมาเคยทวงถามแล้วก็ไม่ให้สักที ไม่อยาดพูดอะไรถึงเถ้าแก่แล้วอยากจะบอกว่าโกงค่าแรงคนต่อไปเถอะถ้าทำแล้วมีกินโกงต่อไป…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์