สนช. ตั้งกระทู้ถาม ปม ทวงค่าเสียหายจำนำข้าว “วิสุทธิ์ “ยัน ฟ้องร้องค่าเสียหายและดำเนินคดีอาญาผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 สิงหาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน โดยพิจารณาวาระกระทู้ถาม ของนายสมชาย แสวงการ สนช.ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง นโยบายเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สรุปว่า ต้องฟ้องร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการรับจำนำข้าวและต้องฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรและผลการปิดบัญชีขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าวมีจำนวนเท่าใด จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และ มูลค่าความเสียหายกรณีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 23 ราย มีความเสียหายเป็นจำนวนเท่าใดและจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยอ้างว่ามี 4 บริษัทเป็นของจีนแต่ก็พบว่า เป็นจีทูจีเก๊
ด้าน นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ยืนยันรายงานตัวเลขการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว 15 โครงการ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 จำนวน 15 โครงการ มีผลขาดทุน 7.45 แสนล้านบาทรวม 85 ล้านตัน แยกเป็นก่อนรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ 11 โครงการขาดทุน 163,000 ล้านบาท และในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ 4 โครงการ ขาดทุน 536,000 ล้านบาท ซึ่งได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการความผิดทางแพ่ง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานจะสรุปในภายเดือนสิงหาคมนี้หรือก่อนที่ประธานจะเกษียณอายุในเดือนกันยายนนี้ และจะนำเสนอกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการเพื่อให้ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายต่อไป ในกรณีที่ผู้รับผิดเป็นเจ้าหน้าที่จะออกคำสั่งทางปกครองให้เจ้าหน้าที่นั้นชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อไป ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีการฟ้องร้องในคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของความเสียหายกรณีการทุจริตการระบายข้าวแบบทีจูจี นั้น กระทรวงพาณิชย์ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางแพ่ง พบว่ามีเจ้าหน้าที่ 6 ราย แยกเป็นข้าราชการ 3 ราย และข้าราชการการเมือง 3 ราย มีมูลค่าความรับผิดค่าเสียหาย 2.57 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างที่กระทรวงพาณิชย์จะมีคำสั่งเรียกให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ทั้งนี้หากไม่ยินยอมชดใช้ความเสียหายนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งภายใน 15 วัน หน่วยงานที่เสียหายจะใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ยึดทรัพย์ขาดทอดตลาดเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนในคดีอาญานั้นอัยการสูงสุดได้มีการฟ้องร้องนายบุญทรง และนายภูมิ ในศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว และได้ยื่นคำร้องในส่วนแพ่งเรียกค่าเสียหายจากเอกชนไปในคดีอาญาด้วย