“ยิ่งลักษณ์” ขึ้นศาลฯ คดีจำนำข้าว ยันปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต-ปฏิเสธทุกข้อหา ระบุ โครงการจำนำข้าว เป็นนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐคุ้มครองรักษาประโยชน์ให้เกษตรกร
วันที่ 5 ส.ค.59 เวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แจ้งวัฒนะ องค์คณะนัดไต่สวนพยานจำเลยนัดแรก ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งบักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิิชอบฯ กรณีไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว
โดยก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเริ่มเบิกความเป็นพยานปากแรก น.ส.ยิ่งยัักษณ์ ได้ขออนุญาตศาลใช้เวลา 1 ชั่วโมง ในการแถลงเปิดคดี ซึ่งจำเลยได้ขออ่านคำแถลงเปิดคดีตามเอกสารที่จัดเตรียม ซึ่งได้มีการสรุปประเด็นต่างๆ ฉายเป็นพาวเวอร์พ้อยท์ ให้องค์คณะฯ ทั้งเก้าได้ทราบรายละเอียด
ขณะที่การแถลงเปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ได้ยืนยันปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามฟ้องโจทก์และสำนวนของ ป.ป.ช.ใน 6 ประเด็น สรุปว่าโครงการจำนำข้าว เป็นนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐคุ้มครองรักษาประโยชน์ให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย และเมื่อได้มีการแถลงนโยบายต่อสภาแล้วก็มีผลผูกพันที่ ครม.ต้องปฏิบัติตามโดยคำนึงถึงประโยชน์เศรษฐกิจโดยรวม ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไร และตามรายงานศึกษาของหน่วยงานทั้งไทย-ต่างประเทศ โครงการนโยบายสาธาณะมีความคุ้มค่า ซึ่งไม่อาจใช้แนวคิดผลกำไรและขาดทุนแบบเอกชนมาเปรียบเทียบ ซึ่งยืนยันว่าข้อกล่าวหาและการแจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ถูกต้องและไม่ให้ความเป็นธรรม โดยไม่เปิดโอกาสไต่สวนพยานจำเลยชั้น ป.ป.ช
นอกจากนี้ อดีตนายกฯ ยังกล่าวตั้งข้อสังเกตุกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องนี้ว่า ดิฉันก็ได้พบเอกสารฉบับหนึ่ง จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใด ดิฉันจึงไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อดิฉันได้พบเอกสารรายงานการประชุมลับ นบข. ที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ที่ระบุว่า “ประธาน นบข. ให้ข้อสังเกตว่า หน้าที่ของคณะกรรมการ คือ ประเมินความเสียหาย และนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางตั้งเรื่อง ไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้ทันการส่งฟ้อง มิฉะนั้นจะถือเป็นความบกพร่อง ของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักนายกฯ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์”
ภายหลังอดีตนายกฯ ใช้เวลาแถลงเปิดคดีจนกระทั่งเวลา 10.30 น. แล้ว องค์คณะให้พักกระบวนพิจารณา 15 นาที ก่อนจะเริ่มไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นพยานปากแรก