เมื่อเวลา 22.40 น.วันที่ 8 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานบรรยากาศวันมาฆะบูชาที่โบราณสถานวัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ในงานเทศกาลมาฆะปูรมีศรีปราจีน ครั้งที่ 34 ประจำปี 2563 พระพิศาลศึกษากร เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผวจ.ปราจีนบุรีเป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นางบังอร วิลาวัลย์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และพุทธศาสนิกชนหนาแน่น มากกว่า 5,000 คน ร่วมในพิธีเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่ ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดขนาด 1.50 เมตร อายุมากกว่า 1,560 ปี พบส่วนใหญ่สวมชุดสีขาว สวมหน้ากาอนามัยรักสุขภาพ หวั่นหวัดมรณะโคโรน่ามาร่วมงาน เนื่องจากผู้คนจำนวนมาก
ทั้งนี้ก่อนพิธีเวียนเทียน มีการแสดงพระธรรมเทศนา โดยพระพิศาลศึกษากร เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรีโดยสรุปถึง ความเป็นมาของเทศกาลมาฆะปูรมีศรีปราจีน จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2529 หลังการขุดพบรอยพระพุทธบาทคู่ และกล่าวถึงวันสำคัญในวันมาฆะบูชา เป็นการแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ให้พุทธศาสนิกชน ทำแต่ความดี งดเว้นการทำชั่ว และทำใจให้บริสุทธิ์ เป็นงานบุญยิ่งใหญ่ของภาคตะวันตะวันออก ในทุกปี
ปีนี้ ไม่มีงบประมาณ ทางคณะสงฆ์ร่วมกับจังหวัด,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถบูรณาการ ด้วยความสามัคคี ให้การจัดงานสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้ตามจุดประสงค์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ตลอดงานหลังการเวียนเทียน ยังมีการทำบุญตักบาตรพระประจำวัน การนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ การถวายสังฆทาน ทอดผ้าป่า และ จำหน่ายอาหารพื้นบ้านไทยพวน วิถีถิ่นวิถีไทยในการสร้างเศรษฐกิจให้ท้องถิ่นด้วย และพบหนุ่ม-สาวฉันทนาหมุนเวียนพากันมาเวียนเทียนรอบรอบพระพุทธบาทคู่อย่างคึกคักตลอดคืน
นางสม ภู่อุด อายุ 59 ปี ชาว จ.นครนายก กล่าวว่า “ในเทศกาลมามาฆะปูรมีศรีปราจีน ตนได้เดินเท้าพร้อมพระธุดงค์250 รูป เดินเท้าไกลกว่า 90 กม.จากวัดโพธิ์ศรี อ.นาดี ผ่าน อ.กบินทร์บุรี,อ.ศรีมหาโพธิ เข้า โบราณสถานวัดสระมรกต มาร่วมปฏิบัติธรรมเวียนเทียนพร้อมพุทธศาสนิกชน รู้สึกปลาบปลื้มใจมาก”
ด้านนายวิทยา พอบู้ อายุ 39 ปี กล่าวว่า “ปีนี้มาเวียนเทียนรอบรอยพระพุทธบาทคู่พร้อมครอบครัว เป็นปีแรก ทราบข่าวจากเพื่อน มาจาก ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา” นายวิทยา กล่าว
เครดิตภาพ:มานิตย์
ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์