“บิ๊กต๊อก”ชวนประชาชนใช้สิทธิลงประชามติ ชี้ไม่ผ่านก็แค่ร่างใหม่ จวกพวกติติงอย่าเจ้าหลักการฉวยโอกาส รธน.แค่ตัวหนังสือแก้ปัญหาความขัดแย้ง-ทุจริตไม่ได้
3 ส.ค.2559 – พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7ส.ค. นี้ว่า อยากให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ ส่วนกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องการก่อเหตุวุ่นวาย ฝ่ายความมั่นคงและคสช.มีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้สั่งการเป็นพิเศษ เรื่องประชามติจะผ่านหรือไม่เป็นเรื่องของประชาชน คสช.สามารถใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวบริหารประเทศได้ แต่คสช.ต้องการทำให้เกิดประชาธิปไตยมากที่สุดบนพื้นฐานที่มีคสช.อยู่ จึงจัดให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่และกำหนดให้มีการทำประชามติ ตามที่มีเสียงสะท้อนว่าประชาชนอยากมีส่วนร่วม
“การแก้ไขกฎหมายบางอย่างจะไม่เห็นประโยชน์จนกว่าจะมีการนำมาปฏิบัติ เช่นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้ ขณะประกาศใช้ถูกคัดค้านเพียงมาตราเดียว นั่นคือ มาตรา 44 ตอนนั้นหลายฝ่ายแสดงความป็นห่วงว่ากลัวจะถูกใช้อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งความเป็นห่วงถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่เมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็จะเห็นผลว่า มาตรา 44 หากใช้อย่างถูกต้องสามารถแก้ไขปัญหาและสร้างความเป็นธรรมให้กับประเทศได้ ทำให้มีการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 ด้วยซ้ำ”พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติก็ต้องร่างใหม่ รัฐบาลและคสช.ต้องเคารพเสียงประชาชนและปฏิบัติตามกฎหมาย เชื่อว่านายกฯจะพยายามแก้กฎหมายให้ประชาชนพอใจมากที่สุด ต้องยอมรับว่าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดดีที่สุด ไม่ว่าจะเขียนระบุไว้อย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการนำมาปฏิบัติ เช่น รัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 ที่บอกว่ามาจากประชาชน เมื่อนำมาปฏิบัติก็เกิดปัญหาอย่างที่เห็น อย่ามองเพียงมิติเดียว สำหรับเสียงวิจารณ์ว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุถึงการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการทุจริตนั้น ทุกอย่างอยู่ที่การปฏิบัติ ผู้ร่างพยายามมองไปถึงปัญหาก่อนการปฏิวัติครั้งล่าสุด ซึ่งต้องการแก้ปัญหาให้ตรงจุด บางเรื่องอาจไม่เป็นประชาธิปไตย ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ก็เคยเป็นรัฐบาลใช้รัฐธรรมนูญปี 50 มาแล้ว แต่ก็เกิดปัญหาความขัดแย้งแก้ไขไม่ได้ ที่สำคัญยังเป็นรัฐบาลภายใต้ความขัดแย้ง ตนอยากได้คำแนะนำถึงวิธีทำงานไม่อยากฟังหลักการ เพราะใคร ๆ ก็พูดได้ สิ่งที่ฝ่ายต่าง ๆ เคยทำมาสังคมน่าจะประเมินผลได้แล้วว่าออกมาอย่างไร อย่าฉวยโอกาสเอามิติการเมืองมาบอกสังคมว่าไม่เป็นธรรมอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะคสช.และรัฐบาลนี้เป็นคนให้โอกาสแก้รัฐธรรมนูญให้มีประชามติ หากไม่ผ่านก็ร่างใหม่ ไม่ต้องมาเรียกร้องให้ลาออก เวลาที่เหลืออยู่อีก 1 ปีเศษ คสช.และรัฐบาลต้องก้มหน้าก้มตาทำงานให้หนักขึ้น
“อย่ามาเจ้าหลักการ อยากฟังว่าจะให้ทำอย่างไร ประเทศต้องการนักบริหารมาทำงาน สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับประชาชน รัฐธรรมนูญเป็นเพียงตัวหนังสือใช้แก้ความขัดแย้งไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับการปฏิบัติและภาวะผู้นำด้วยว่าสามารถแก้ความขัดแย้งได้หรือไม่ ที่บอกว่ารัฐธรรมนูญแก้ปัญหาทุจริตไม่ได้แล้วรัฐธรรมนูญปี 40,50 แก้ได้หรือไม่ คนที่ติดคุกระนาวในตอนนี้เกิดขึ้นเพราะรัฐธรรมนูญ ปี 40,50 ทั้งนั้น สำหรับการลงประชามติอยากให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ ชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องส่วนบุคคล การลงคะแนนไม่มีการบังคับ ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็ต้องร่างกันใหม่ เราไม่ใช่นักการเมืองจะได้มาพูดว่าไม่เลือกเราเขามาแน่” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว