พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม.ได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีน ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตในหลายประเทศ ซึ่ง จนท.ตม.สนามบิน ได้ร่วมปฏิบัติการกับ จนท.กรมควบคุมโรค และ การท่าอากาศยาน AOT โดยกำหนดหลุมจอดเทียบเฉพาะ เครื่องบินที่เดินทางจากเมืองอูฮั่น และ กวางโจว เพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อ ขณะที่สนามบิน โดยเฉพาะ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ ยังคงมีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม ได้มีความห่วงใย จนท.ผู้ปฏิบัติ ที่ต้องเผชิญภาวะสัมผัสผู้โดยสารจากต่างประเทศทั่วโลกกว่าวันละ 60,000 คน ทุกวัน ซึ่งได้มอบหมาย พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ผู้ช่วย ผบ.ตร ลงพื้นที่ ด่าน ตม.ดอนเมือง เพื่อตรวจความพร้อม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 จึงได้สั่งการยกระดับมาตรการรักษาความสะอาดในการให้บริการเพื่อป้องกันและหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร โดยมีมาตรการต่างๆดังนี้
1. ระดมกำลังพล จนท.ตม.เช็ดทำความสะอาด พื้นที่ปฏิบัติการ โดยเฉพาะ ช่องตรวจหนังสือเดินทาง เคาท์เตอร์กรอกเอกสาร และอุปกรณ์ ที่มีพื้นสัมผัสโดยตรงกับผู้โดยสาร ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และ สเปร์แอลกอฮอล์ล ทุก 1 ชั่วโมง
2. ให้ จนท.ตม.สนามบิน ทุกแห่ง สวมหน้ากาก และถุงมือ ป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากต้องสัมผัสหนังสือเดินทาง และ สื่อสารกับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ตลอดเวลา
3. ตั้งน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณเคาท์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อให้ผู้เดินทางได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อระหว่างการเดินทาง
4. สังเกตุพฤติกรรมผู้โดยสารที่มีอาการป่วย ไอ จาม เพื่อเชิญตัว ออกจากกลุ่มชน และประสานกับ จนท กรมควบคุมโรคสนามบิน ให้มาตรวจสอบอาการ
5. ให้ ผู้บังคับบัญชา เฝ้าติดตามอาการ จนท.ผู้ปฏิบัติ หากมีลักษณะผิดปกติ ให้ส่งแพทย์ตรวจอาการทันที
ส่วนขั้นตอนการตรวจบุคคลพาหนะ เที่ยวบินจากเมืองเฝ้าระวัง ตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด การท่าอากาศยานได้มีการกำหนดหลุมจอดเฉพาะเพื่อให้ผู้โดยสารผ่านการคัดกรองด้วยเครื่อง Termo-scan ไม่ให้มีปะปนกับผู้โดยสารอื่นๆ โดยผู้ที่ถูกคัดแยกเข้ารับการสืบสวนอาการ จะมีการตรวจคนเข้าเมืองที่จุดคัดกรอง ซึ่งลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอาคารตามมาตรฐาน ICAO
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน