แฉผอ.รร.ปล้นทองสุดชิล จากคดีสะเทือนขวัญเหตุคนร้ายบุ่กปล้นร้านทองออโรร่า ภายในห้างดัง อ.เมืองลพบุรี โดยใช้อาวุธปืนเก็บเสียงยิงเปิดทางใส่ชาวบ้านและพนักงานร้านทอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กชายวัย 2 ขวบโดนลูกหลงเสียชีวิตด้วย ท่ามกลางความแตกตื่นของชาวบ้านที่เดินซื้อของในห้าง เหตุเกิดวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 22 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุมัติหมายจับ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การรับสารภาพ แต่อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมว่ามีเหตุจูงใจอย่างไร
จากนั้นตำรวจได้ระดมกำลังออกติดตามและหาเบาะแสของโจรโหดรายนี้ โดยไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วเมือง รวมถึงตามเส้นทางที่ใช้ลพบุรี เบื้องต้นคาดยังกบดานในพื้นที่ ซึ่งจากเบาะแสพบคนร้ายใส่ชุดแบรนด์เนมมีราคาแพงทั้งตัว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก็ราคาสูงเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงแกะรอยหาเบาะแส พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยแจ้งเบาะแส โดยมีรางวัลนำตัวและค่าหัวหลายแสนบาท
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด
เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 22 มกราคม 2562 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และรองผบ.ตร. พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโด คุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทองลพบุรี มายังสถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม
เบื้องต้นมีรายงานว่าจากการเค้นสอบผู้ต้องหารายนี้ ยอมรับสารภาพ อ้างว่า ที่ก่อเหตุชิงทองเพราะมีปัญหาชีวิต มีความผิดหวังในชีวิต จึงก่อเหตุเพื่อต้องการให้ตำรวจวิสามัญตัวเอง แต่วันก่อเหตุไม่มีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ จึงได้หลบหนี และนำเอาทองไปทิ้งที่แม่น้ำใน จ.สิงห์บุรี โดยผู้ต้องหารายนี้นั้นทางชุดสืบสวนได้ติดตามพฤติกรรมมาตลอด หลังจากได้ข้อมูลจากพลเมืองดี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับใน 6 ข้อหาหนัก
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหา เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน และให้การรับสารภาพว่าปล้นทองและยิง 3 ศพจริง
ประวัติ ผอ.รร. ปล้นทอง เป็นลูกตำรวจ เผยที่มาปืนใช้ก่อเหตุ!
จากคดีสะเทือนขวัญ ปล้นทองในห้างสรรพสินค้าลพบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวชายอายุ 38 ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี เป็นข้าราชการครู เพื่อสอบปากคำในเซฟเฮ้าส์ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะยอมรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ใช้ปืนเก็บเสียงบุกชิงทอง และใช้อาวุธปืนยิงประชาชนได้รับบาดเจ็บ 4 คน และเสียชีวิต 3 คน 1 ในจำนวนนี้คือเด็กชายอายุ 2 ขวบ
โดยจากข้อมูลหลังก่อเหตุได้เพียง 1 วัน ผู้ต้องหายังกลับไปสอนหนังสือตามปกติ โดยไม่ได้มีความสะทกสะท้าน อีกทั้งหลังทราบข้อมูลผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบรายชื่อกับเฟซบุ๊ค พบมีชื่อและรูปหน้าตรงกัน มีการโพสต์สเตตัสความเคลื่อนไหวการร่วมกิจกรรมเมื่อวันเด็กที่ผ่านมา อย่างสนุกสนาน และพาแฟนสาวไปเที่ยว โดยไม่ได้รู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
บรรยากาศได้มีประชาชนกว่านับพัน พร้อมมีกระแสข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหา ทำให้ชาวบ้าน พากันมามุงดูนับพันคนส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิฯและ ตำรวจสายตรวจมาคอยรักษาความสงบ
โดยมีประชาชาชนที่มามุงดูเหตุการณ์ได้แสดงความคิดเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างๆ นาๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในที่นั้นได้ทราบว่าจะ “ไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนแต่อย่างใด” แต่ชาวบ้านยังคงไม่เชื่อ และพากันจับกลุ่มเฝ้ารอดูอยู่ไม่ยอมกลับที่พักสร้างความผิดหวังให้กับประชาชนที่เฝ้ารอ
สำหรับประวัติผู้ต้องหา พบว่าบิดาเป็นตำรวจ ส่วนมารดาเป็นครู สำหรับอาวุธปืนที่นำมาใช้ก่อเหตุเป็นของพ่อ หลังเกิดเหตุครอบครัวไม่ได้สงสัยการกระทำของลูกชายว่าจะเป็นคนร้าย กระทั่งมาถูกจับกุม โดยในวันนี้พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะจะเดินทางมาสอบปากคำ และจะนำตัวไปค้นจุดต้องสงสัยที่ทิ้งอาวุธปืน และพยานหลักฐานต่างๆ ในคดี ส่วนทอง 28 บาท ที่ได้ชิงไปยังอยู่ระหว่างการสอบขยายผลว่าจะนำไปทิ้ง หรือเก็บไว้ที่ใด
ใจรัก วงศ์ใหญ่
สำนักข่าวเดลิซันเดย์
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี