จากกรณีคดีสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ คนร้ายใช้อาวุธปืนสั้นติดที่เก็บเสียง บุกปล้นร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี ก่อนยิงพนักงานหญิง ลูกค้าภายในห้าง และเด็กชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิตรวม 3 ราย โดยคนร้ายสามารถนำทองคำ 28 บาท มูลค่า 5 แสนบาท เกิดเหตุเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 ม.ค 63
หลายสิ่งหลายอย่างได้ตอกย้ำเพราะที่ผ่านมามีหลายคดีล่าช้า เนื่องจากตำรวจไทยมีปัญหาการเชื่อมโยงระบบบิ๊กดาต้าเป็นข้อมูลในคดีต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงตัวคนร้าย อย่างกรณีคนร้ายก่อคดีเล็กๆ น้อยๆ ในอดีต มีผู้เสียหายส่วนหนึ่งอาจไม่ไปแจ้งความ หรือตำรวจอาจไม่รับแจ้งความ เพียงแต่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น เพราะมองเป็นคดีเล็กน้อย แต่หากมีการทำระบบข้อมูลคดีที่เคยเกิดขึ้นแม้เป็นคดีเล็กๆ ก็จะสามารถติดตามเชื่อมโยงคนร้ายได้ เช่น อาจก่อเหตุตั้งแต่เป็นเด็กหากปล่อยไปไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อโตขึ้นมาอาจกระทำความผิดที่รุนแรงและมีความก้าวร้าวมากขึ้น
“ตอนนี้จักรยานยนต์คนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ อาจมีการแยกชิ้นส่วนไปแล้วก็ได้ เพราะเราไม่มีระบบวิเคราะห์ตัวบุคคล จึงทำให้คดีไร้วี่แววทำได้ยาก และกล้องวงจรปิดไม่ชัด ซึ่งทางห้างน่าจะมีมาตรการหากมีการจอดรถในที่ห้ามจอดตรงทางเข้าออก ดังนั้นคดีที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการถอดบทเรียน นำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อจะหยุดยั้งคดีอื่นๆ อย่างคดีปล้นทองที่ภูเก็ต และอีกหลายคดีที่ไม่เป็นข่าว จนถึงขณะนี้ยังปิดคดีไม่ได้ หรือตำรวจให้ความสนใจน้อย กลับกันคดีปล้นทองที่ลพบุรี ตำรวจให้ความสนใจเพราะคนในสังคมให้ความสนใจ ซึ่งต้องหาความเชื่อมโยงทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทางเทคโนโลยีและพยานบุคคล”
อย่างไรก็ตามคาดว่าตำรวจอาจมีหลักฐานตรงประตูทางออกของห้าง จากถุงมือคนร้ายอาจมีปลายเปิดจะสามารถพิสูจน์ดีเอ็นเอ ตรวจเอกลักษณ์บุคคล รวมถึงตรวจสอบคนครอบครองปืนยี่ห้อซีแซดในพื้นที่ลพบุรี ทั้งจากปลอกกระสุนปืน และกระสุนในศพเหยื่อ ซึ่งบ่งบอกได้บางส่วนนำไปเปรียบเทียบกับปืนว่าเป็นกระบอกใด เนื่องจากปืนของแต่ละคนเหมือนเป็นอัตลักษณ์ แต่ปืนอาจมีการเปลี่ยนมือภายหลังก็ได้ หรือมีการโอนลอย
ส่วนกรณีผบ.ตร.ออกมาระบุคนร้ายหลบหนีไปชายแดน ซึ่งตนในฐานะเคยเป็นตำรวจกองปราบคิดว่าเป็นการปล่อยข่าวออกไป หาวิธีไม่ให้น้ำกระเพื่อมเหมือนการจับปลา ซึ่งตำรวจอาจมีการประกบติดตามตัวคนร้ายและแน่นอนต้องรู้ว่าใครครอบครองปืน รู้ว่าคนร้ายไปเส้นทางใด มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มไหน และน่าจะรู้ว่ารถฟีโน่มาจากแหล่งใด หากจับคนร้ายได้ควรจับเป็นเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ตำรวจกำลังหาความเชื่อมโยงในการจับคนร้าย หรืออาจเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ได้เรียกมาสอบปากคำ อาจมีการย้อนเกล็ดจับกุมภายหลังเมื่อมีหลักฐานชัดเจน
ขณะที่การตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้นั้น ในประเด็นนี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะกระทำผิดมนุษย์มีการยิงเด็ก อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้ส่งสัญญาณชัดเจน และสื่อได้เกาะติดเรื่องนี้เป็นรายวัน ซึ่งสร้างความกดดันให้กับตำรวจต้องจับกุมคนร้ายให้ได้ โดยที่ผ่านมาน่าจะเป็นความยากในการหาหลักฐาน สมมติมีผู้ต้องสงสัย 2 คน ทางตำรวจต้องมีหลักฐานชัดเจนในการขอศาลให้อนุมัติหมายจับ
“ทางการข่าวขณะนี้ อาจทำให้ผบ.ตร.เชื่อว่าคนร้ายหนีไปชายแดนแล้วก็ได้ เพราะเวลาคนร้ายก่อเหตุแน่นอนต้องคุ้นเคยในพื้นที่ หรือมีคนร่วมมือมากกว่า 1 คน หรือสิ่งที่ผบ.ตร.พูดอาจเป็นข่าวลวงแบบลับลวงพราง เพื่อให้คนร้ายตายใจ อาจเป็นคนมีสีเป็นตำรวจหรือทหาร หรือคนนอกราชการ ใช้อาวุธก่อเหตุ หรือคนเชี่ยวชาญเรื่องปืน ถามว่าหากเป็นทหารแล้วตำรวจไม่จับก็ต้องมีคำอธิบาย ขณะที่ทหารก็คงให้ความร่วมมืออย่างดีในการสืบสวนหาตัวคนร้าย เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัย แต่ลึกๆเชื่อว่าทหารคงให้ความร่วมมือ มิฉะนั้นความกดดันจะตกอยู่ที่ตำรวจและรัฐบาล ที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้”
แม้ขณะนี้ยังไม่ทราบคนร้ายปล้นร้านทองเป็นใคร อาจเป็นคนมีสี มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธปืนอย่างโหดเหี้ยม หรืออาจเป็นคนที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมมาก่อนก็เป็นไปได้ หรือคนที่ชื่นชอบอาวุธปืน ซึ่งมีพฤติกรรมเสพติดความรุนแรง ยกตัวอย่างกรณีสมคิด พุ่มพวง มีปัญหาเรื่องครอบครัวในสมัยเด็ก ยังสามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น ทั้งๆ ที่หลับนอนกับเหยื่อ ซึ่งคดีนี้อาจไม่ใช่ฝีมือคนมีสีก็ได้ ต้องติดตามการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายล้วนแล้วแต่มีฝีมือในการสอบสวน น่าจะคลี่คลายคดีได้.
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย
สำนักข่าวเดลิซันเดย์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในเวลานี้ งไร้วี่แววโจรปล้นทองห้างลพบุรี มีผู้เสียชีวิตไป 3 คน สร้างความเศร้าเสียใจให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาพสะเทือนใจยังวนเวียนอยู่ ขณะกระสุนมัจจุราชออกจากลำกล้องปืนเก็บเสียง พุ่งเจาะกลางหน้าผากน้องไทตัล เด็กชายวัย 2 ขวบ จนล้มลงต่อหน้าแม่และเสียชีวิตในที่สุด
แม้ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ดูเหมือนจะมีข่าวดีเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเบาะแสคนร้าย แต่แล้วก็กลับนิ่งเงียบ ท่ามกลางความสงสัยของคนในสังคมว่ามือก่อเหตุจะเป็นคนมีสีหรือไม่? ถึงมีอุปสรรคมากมายในการติดตามจับกุม
ตำรวจแจงแล้ว คดีเด็กปาดคอกันในโรงเรียนชื่อดัง รู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว
ตร.ตรวจพบปืนแบบที่คนร้าย ปล้นร้านทองลพบุรีใช้ มีของ ตร. 2 ชาวบ้าน 11
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่ติดตามคดี “ปล้นร้านทอง” ด้วยตัวเอง ออกมาระบุพบข้อมูลเบาะแสบางส่วน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ พร้อมเชื่อว่าคนร้ายไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว เพราะสื่อมวลชนนำเสนอข่าวจนคนร้ายไหวตัว อาจหลบหนีไปพื้นที่ชายแดน และไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ
หรือจะเป็นข่าวลวงเพื่อให้คนร้ายตายใจ โดย
บรรยากาศหลังมีข่าวคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สปก.ภ.จว.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวชายคนหนึ่งเข้ามา โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากรอความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีการระบุว่า ชายต้องสงสัยคนดังกล่าวเป็นใคร อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะบินมาที่ลพบุรีวันนี้แต่ แต่บิ๊กแป๊ะสั่งยกเลิก บอกว่าติดธุระด่วน ทำให้ การประชุม ชุดสืบสวน บชน. จ.ลพบุรี ต้องยกเลิกการทันที ทำให้ชุดสืบสวนแยกย้ายไป ในห้องประชุมว่างเปล่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาประชุม
คาดว่าอาจจะสืบสวนได้เบาะแสอะไรบางอย่างทำให้มีการยกเลิกประชุมในครั้งนี้ตั้งข้อสังเกตได้ว่า ไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดลพบุรีมาแถลงข่าว
ประชาชนตั้งข้อสังเกตในคดีนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยโดยไว
เพราะใกล้ถึงงานประจำ ปีของจังหวัดลพบุรีแล้วก็คืองาน งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จะมีขึ้นในการเดือนกุมภาพันธ์ ประชาชนกลัวว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดลพบุรี กลัวคนร้ายดังกล่าวอันตราย ต่อลูกหลาน ทำให้งานกร่อยไปทันที
ผบ.ตร. สับขาหลอก ยกเลิกประชุมล่าโจรเหี้ยมชิงทองลพบุรี
ล็อกตัว-สอบคดีปล้นทอง เป็นชายต้องสงสัย
พบชายต้องสงสัย ที่หนองคาย ลักษณะ-สะพายเป้ คล้ายโจรปล้นร้านทองลพบุรี
เช็กวงจรปิด กว่า 1,000 ถึง 3,000 ตัว ใน 9 จังหวัด ล่าโจรทมิฬ
คาดว่าจะได้เบาะแสล่าสุดทีมข่าวจะเกาะติดเจาะลึกในคดีนี้ถึงที่สุด
ใจรัก วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี
สำนักข่าวเดลิซันเดย์