อดีตคนสนิทของ “หมอเปรม” ปรากฏตัวเปิดเผยเบื้องลึกอีกคน เล่าถึงพฤติกรรมฉาวเกี่ยวกับความรัก ชี้เหตุที่เกิดกับนักข่าวน่าจะวางแผนมาดี ชาวบ้านยังหวั่นๆ อิทธิพล
(1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่นยังคงเกาะติดรายงานประเด็นข่าวของ ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ หมอเปรม นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อย่างต่อเนื่องจาก หลังเกิดกรณีอื่อฉาวต่างๆ รวมทั้งกรณีกักขังและจับผู้สื่อข่าวแก้ผ้า ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุดได้รับประสานงานจาก นายวัฒนาวุฒิ หอวิจิตร สท.บ้านไผ่ เขต 1 พร้อมด้วยอดีตประธานชุมชนตลาดสดบ้านไผ่ ที่ต้องการจะเปิดเผยเกี่ยวกับพฤติกรรมของ หมอเปรม หลังจากที่ช่วงมีกระแสข่าวออกมาหนาหู โดยเฉพาะประเด็นอื้อฉาวเกี่ยวกับความรัก
นายวัฒนาวุฒิ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีเรื่องราวต่างๆ หลุดไปทางโซเชียลมีเดีย ตนคิดว่าน่าจะถึงเวลาอันสมควรแล้วที่ต้องออกมาพูดบ้าง ตนเคยช่วยหาเสียงให้กับ หมอเปรม ครั้งสมัยที่ลงเลือกตั้ง เพราะคนเป็นเพื่อนสนิทกับรองนายกเทศบาลฯ คนหนึ่ง
กระทั่งในระยะหลังๆ ได้เข้าไปคลุกคลีมากขึ้น ทำให้พบว่า หมอเปรม มีนิสัยรักสนุกกับกลุ่มเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กนักเรียน เวลาไปนั่งร้านอาหารบางครั้ง หากเห็นเด็กคนไหนหน้าตาดี ก็มักจะเข้าไปทักทายและขอเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ ก่อนจะติดต่อกลับไปหา
“ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้คงถึงเวลาที่จะต้องเปิดเผยความจริง เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ อาจจะทำให้เด็กนักเรียนที่เป็นอนาคตของชาติ ต้องหมดอนาคตไป ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ปกครองมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ทำไม หมอเปรม ต้องโทรหาลูกสาวในยามค่ำคืน หรือบางครั้งก็จะมีการนัดกินข้าว จนทำให้ผู้ปกครองหลายคน เลี่ยงที่จะต้องพบเจอกับ “หมอเปรม” หรือนำบุตรหลานไปหลบซ่อนตัว”
“เพราะใครๆ ก็รู้ว่า หมอเปรม มักจะหว่านเสน่ห์ไปทั่ว อย่างไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร จนทำให้มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อจากความต้องการทางอารมณ์ ตนมองว่า หมอเปรม ผู้นำที่ขาดศีลธรรม-จริยธรรม ซึ่งถือว่าขาดความชอบธรรมในการเป็นผู้นำของชุมชนแล้ว” นายวัฒนาวุฒิ กล่าว
สท.บ้านไผ่ เขต 1 ยังกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว เชื่อว่าเป็นการจัดฉากและเตรียมการเอาไว้แล้ว ตนได้ฟังเรื่องราวจากเจ้าหน้าที่ในเทศบาลเมืองบ้านไผ่คนหนึ่ง ที่มาเล่ารายละเอียดว่า หมอเปรมเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวมาก เมื่อนักข่าวไปรอที่เทศบาลฯ จึงได้เรียกตัวทั้งหมดเข้าไปในห้อง ซึ่งเป็นการเตรียมการไว้แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวมารวมตัวกันครบ จึงได้เรียกบอดี้การ์ดส่วนตัวและลูกจ้างอีก 2 คน มาเฝ้าประตูและสั่งล็อกห้องเอาไว้ พร้อมยึดกล้องถ่ายภาพและโทรศัพท์เอาไว้ ก่อนจะเริ่มออกปากต่อว่านักข่าวอย่างรุนแรง ต่อมา หมอเปรม ได้เรียกตัวผู้สื่อข่าวที่เป็นคู่กรณีออกมา ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องล็อกตัว โดยที่ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ ก็ร้องทัก ก่อนจะจับแก้ผ้าทีละชิ้น อีกทั้งยังสั่งให้คนถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย
“เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย เพราะคงไม่มีผู้บริหารเทศบาลฯ ที่ไหนบ้าห่ามแบบนี้ ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว หมอเปรม ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง เพราะเชื่อว่าในขณะนี้หาก หมอเปรม หยุดการปฎิบัติหน้าที่ก็จะทำให้มีข้าราชการในเทศบาลเมืองบ้านไผ่ออกมาให้ข้อมูลเพิ่งเติมอย่างแน่นอน” นายวัฒนาวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ นายวัฒนาวุฒิ ยังทิ้งท้ายอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือความปลอดภัยของบุคคลที่ออกมาให้ข่าวและเปิดเผยข้อเท็จจริง โดยเฉพาะภาวะอารมณ์ของ หมอเปรม และยังมีอดีตข้าราชการทหารนายหนึ่ง ที่คอยช่วยเหลือและทำทุกอย่างให้กับหมอเปรม จึงทำให้ชาวบ้านรู้สึกหวาดกลัวอิทธิพล
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เชื่อว่าภายใต้การนำของรัฐบาล คสช. คงจะมีวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องเป็นธรรม และไม่ควรที่จะปล่อยให้เรื่องนี้ยาวนานบานปลาย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้