วันที่ 23 ธ.ค.62 เวลา 10.00 น.ณ บริเวณห้องโถงชั้นล่าง อาคาร 2 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี,พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ,พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ปฺฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด.ปฏิบัติราชการ สตม.,พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม 5,พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผกก.ตม.จ.ตาก ร่วมแถลงข่าว ผลการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลี Overstay 332 วัน มีหมายแดง INTERPOL เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.ชำนาญฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ตม.จ.ตาก ได้ประชาสัมพันธ์การแจ้งที่พักอาศัยชาวต่างชาติและทำการตรวจสอบเบื้องต้น ตามแผนการระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าว บก.ตม.5 (ในห้วงวันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2562) วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้เดินทางไปประชาสัมพันธ์และทำการตรวจสอบที่นิติบุคคลของวีคอนโด เลขที่ 599 หมู่ 1 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ระหว่างนั้นได้ตรวจสอบชาวต่างชาติหลายคนที่เดินลงมาจากห้องพัก จนพบกับผู้ต้องหาซึ่งกำลังเดินลงมาเช่นกัน ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นชายสัญชาติเกาหลีใต้ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอทำการตรวจสอบ หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ปรากฏว่าผู้ถูกจับไม่สามารถนำเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวผู้ต้องหามาเพื่อทำการตรวจสอบที่ ตม.จว.ตาก จากการตรวจสอบกับระบบ Biometrics พบว่า ชายดังกล่าวคือ นายหยาง (Mr.YANG) อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้าประเทศไทยล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ที่ท่าอากาศยาน จว.เชียงราย โดยใช้วีซ่าประเภท ผ.ผ.90 และ วีซ่าหมดอายุในวันที่ 16 ธันวาคม 2561 (Overstay จำนวน 332 วัน) และตรวจสอบพบว่า นายหยาง (Mr.YANG) อายุ 44 ปี สัญชาติ เกาหลีใต้ เป็นบุคคลประเภทติดตามเฝ้าระวัง Red Notice ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จับกุมและควบคุมตัวนำส่ง สภ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อดำเนินคดีการตามกฎหมายต่อไป
คดีต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ได้พบเห็นชาวต่างชาติยืนรออยู่ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าห้องกัก ตม.จ.ตาก มีพฤติกรรมน่าสงสัย เป็นพิรุธ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันทำการตรวจสอบ หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง จากการสอบถามผู้ถูกจับเบื้องต้น (ผู้ถูกจับสามารถสื่อสารภาษาไทยได้เล็กน้อย) ปรากฎว่าผู้ถูกจับกุมไม่ได้นำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย จึงเชิญตัวไปตรวจสอบ ต่อมามีเพื่อนชาวไทย
นำหนังสือเดินทางมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จากการตรวจสอบจากสารระบบ Biometrics พบว่าชายดังกล่าวชื่อ นายโน (Mr.NOH) อายุ 39 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 โดยผ่านทางจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา และเดินทางออก ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 โดยผ่านทางจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” จับกุมและควบคุมตัวนำส่ง สภ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อดำเนินคดีการตามกฎหมายต่อไป
ต่อเนื่องจากเหตุที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบ หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง จากการสอบถามผู้ถูกจับเบื้องต้น (ผู้ถูกจับสามารถสื่อสารภาษาไทยได้เล็กน้อย) ปรากฎว่าผู้ถูกจับกุมไม่ได้นำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย แต่ได้แสดงสำเนาหนังสือเดินทางซึ่งถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน 7 สีทอง ว่าชื่อ MR.BAEK สัญชาติเกาหลีใต้ จึงเชิญตัวไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบจากสารระบบ Biometrics พบว่า หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นของ MR.BAEK สัญชาติเกาหลีใต้ แต่มีภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางไม่ตรงกับที่ผู้ถูกจับกุมนำมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามผ่านล่ามแปลภาษาว่าหนังสือเดินทางที่ผู้ถูกจับกุมใช้เป็นของใคร ผู้ถูกจับจึงให้การรับสารภาพว่า ภาพสำเนาหนังสือเดินทางของที่ใช้แทนและนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ตม.จ.ตาก นั้น ไม่ใช่ของจริง แต่ผู้ถูกจับได้นำรูปของตนไปตัดต่อเข้ากับหนังสือเดินทางของ MR.BAEK สัญชาติเกาหลีใต้ และผู้ถูกจับไม่สามารถนำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของตน มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้แต่อย่างใด หลังจากการตรวจสอบผู้ถูกจับกุมได้แอบลบภาพดังกล่าวออกจากโทรศัพท์มือถือของตน ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ ปลอมหรือใช้หนังสือเดินทางปลอมฯ และเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” จับกุมและควบคุมตัวนำส่ง สภ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อดำเนินคดีการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ชำนาญฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการอาชญากรรมตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่มีโทษทางอาญาที่เกี่ยวข้อง และให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใด พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน