ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพจังหวัดลพบุรี รายงานข่าวมาว่า
มีทีมลาดตระเวนซับลังกา พบช้างป่า “พังบานเย็น” มีลูกเพิ่มอีก 2 ตัว ตอกย้ำความสมบูรณ์ของผืนป่า
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จ.ลพบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ภาคสนาม มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ออกลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด และติดตามช้างและสัตว์ป่า บริเวณป่าเขาพังเหย กม.10 ผาสุดแผ่นดิน ป่าตะแบก ชายตีนเขาตามคลอง กม.8 ผลการลาดตระเวน พบช้างป่ากลุ่มพังเดือน จำนวน 7 ตัว โดยมีเพิ่มขึ้น 3 ตัว (พังบานเย็น พร้อมลูกอีกสองตัว) หากินบริเวณป่าด้านย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพจังหวัดลพบุรี รายงานข่าวมาว่า
มีทีมลาดตระเวนซับลังกา พบช้างป่า “พังบานเย็น” มีลูกเพิ่มอีก 2 ตัว ตอกย้ำความสมบูรณ์ของผืนป่า
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จ.ลพบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ภาคสนาม มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ออกลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด และติดตามช้างและสัตว์ป่า บริเวณป่าเขาพังเหย กม.10 ผาสุดแผ่นดิน ป่าตะแบก ชายตีนเขาตามคลอง กม.8 ผลการลาดตระเวน พบช้างป่ากลุ่มพังเดือน จำนวน 7 ตัว โดยมีเพิ่มขึ้น 3 ตัว (พังบานเย็น พร้อมลูกอีกสองตัว) หากินบริเวณป่าด้านในเขตฯ
นายวสันต์ กล่อมจินดา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา กล่าวว่า หลังจากที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระดำรัสจัดตั้งโครงการนำช้างบ้านคืนสู่ป่าในพื้นที่ซับลังกา นอกจากจะทำให้มีจำนวนช้างเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยิ่งทำให้พื้นป่ามีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้น เพราะจากการที่ช้างออกหากินและถ่ายมูลทำให้ต้นไม้ขึ้นมาเพิ่มอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยสร้างแหล่งอาหารให้ช้าง จนทำให้มีพื้นป่าขยายเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกว่า 1.4 แสนไร่แล้ว ทำให้มีอาหารเพียงพอให้ช้างกิน โดยไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่รอบป่าซับลังกาแต่อย่างใด
#เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา #กลุ่มพังเดือน #พังบานเย็น #มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ #dnp1362
#PRDNP #dnpreport
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ
จังหวัดลพบุรี
สำนักข่าวเดลิซันเดย์