ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาตรวจราขการในพื้นจังหวัดบึงกาฬ พร้อมกับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ณ โรงเรียนศรีวิไลวิทยา อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ
โดยร้อยเอก ธรรมนัสฯ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ ตนได้มอบเอกสารสิททธิ์ สปก 4-01 ให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ ที่ขอรับสิทธิ์ที่เป็นไปตามขั้นตอนของทางสปกฺ.ที่มีการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียดโดยจังหวัดบึงกาฬ มีพื้นที่ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งสิ้น จำนวน 8 อำเภอ 52 ตำบล เนื้อที่ประมาณ 1,277,306 ไร่ เดิมพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินทั้ง 8 อำเภอที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดหนองคาย
ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ โดยให้แยกอำเภอบึงกาฬ,อำเภอเซกา,อำเภอโซ่พิสัย,อำเภอบุ่งคล้า,อำเภอบึงโขงหลง,อำเภอปากคาด,อำเภอพรเจริญ และอำเภอศรีวิไล ออกจากเขตการปกครองของจังหวัดหนองคาย จึงมีผลให้พื้นที่ 8 อำเภอ เป็นเขตปฏิรูปที่ดินอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ
ซึ่งมีรายละเอียดการจัดที่ดิน ประกอบด้วยที่ดินของรัฐ ได้ดำเนินการจัดที่ดินและมอบหนังสืออนุญาตให้เกษตรกร เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ไปแล้ว จำนวน 80,813 ราย 90,446 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,095,964 ไร่ และที่ดินเอกชน ได้ดำเนินการจัดที่ดินโดยการทำสัญญาเช่าและสัญญาเช่าซื้อ จำนวน 10 ราย 12 แปลง เนื้อที่ประมาณ 167 ไร่ รวมทั้งในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ ได้ดำเนินการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรไปแล้ว จำนวน 2,900 ราย 3,249 แปลง เนื้อที่ประมาณ 33,764 ไร่ และส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 15 โครงการ
ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ตนได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬ จำนวน 1,326 ราย 1,459 แปลง เนื้อที่ 39,230 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 4,669 ไร่ ได้มอบนโยบายให้ ส.ป.ก. เร่งดำเนินการและมอบเอกสารสิทธิ์ฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน สำหรับพื้นที่ ส.ป.ก. จังหวัดบึงกาฬ ส่วนใหญ่เกษตรกรปลูกยางพารา ซึ่งจากการประชุม ครม. เมื่อ 11 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้รับทราบผลการใช้ยางพาราและความคืบหน้าในการเพิ่มการใช้ยางพาราของแต่ละกระทรวงตามที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติเสนอ โดยในปีงบประมาณ 2563 รัฐบาลมีเป้าหมายการใช้น้ำยางสด 90,356.440 ตัน
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมผลักดันมาตรการสนับสนุนการใช้ยางพาราภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการสนับสนุนการแปรรูปยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำอย่างยั่งยืนด้วย
นอกจากนั้นยังดำเนินการพัฒนาการเกษตรด้วยการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ (ศพก.) ซึ่ง ศพก. ด้วยการขยายผลองค์ความรู้จาก ศพก.อำเภอศรีวิไล (นายวิชิต โพธิ์ขี) โดยมีนายประวิทย์ ทุ่งคำ เป็นเจ้าของศูนย์ฯ มีสมาชิกจำนวน 36 ราย ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ องค์ความรู้เด่น ได้แก่ การทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยเฉพาะด้านไม้ผล เช่น มะพร้าวน้ำหอม และการผลิตปุ๋ยชีวภาพ โดย ส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ ได้เข้ามาดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน กิจกรรมการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในเขตปฏิรูปที่ดิน มีการส่งเสริมองค์ความรู้และสนับสนุนปัจจัยการผลิตในการทำเกษตรอินทรีย์แบบกลุ่มรับรองกันเอง (PGS) และดำเนินกิจกรรมวนเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน
ขณะเดียวกันส.ป.ก.จังหวัดบึงกาฬ ได้เพิ่มแผนดำเนินกิจกรรมการส่งเสริมพืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน และโครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) และโครงการมอบสินเชื่อเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 20 ราย เป็นเงิน 1,000,000 บาท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ ศพก.เครือข่าย และสมาชิกให้มีความเป็นอยู่ที่มั่นคงต่อไปอีกด้วย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน