เมื่อเวลา 17.20 น. ร.ต.อ.ณัฐธเนศ อัครดำรงสกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ที่บ้านเลขที่ 76/1 ม.3 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสิงห์บุรี และอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง จ.สิงห์บุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น ภายในห้องน้ำชั้นล่างพบศพ นายสมบูรณ์ ชัยรัตน์ หรือ อ้วน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าวนอนหงายเหยียดยาวใส่เสื้อโปโลสีเทาดำ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่มีบาดแผลที่ตัว มีคราบเลือดออกจากจมูกเล็กน้อย ตัวเริ่มแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง สอบถามนายศานติ โตสุวรรณถาวร อายุ 16 ปี ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า นายสมบูรณ์ เป็นน้าชายของตนโดยพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ 5 คน มียาย ผู้ตาย กับภรรยา ตน และก็หลานสาว เมื่อตอนเช้าตนไปโรงเรียนตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยังเจอผู้ตายซึ่งออกมาจากห้องนอนมาสตาร์ทรถ จยย.ให้กับยายของตนอยู่เลย จนเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตนกลับมาจากโรงเรียนเจอยายที่กลับมาจากข้างนอกพอดี ในขณะที่ยายเดินเข้าไปทางหลังบ้านก็ตะโกนถามว่า มีใครอยู่ในห้องน้ำที่ประตูปิด เคาะเรียกก็ไม่มีใครเปิด ตนจึงก้มลงดูใต้ประตูห้องน้ำที่มีช่องพอมองเห็นอยู่พบ นายสมบูรณ์ นอนคว่ำหน้าอยู่ ตนจึงกระโดดถีบประตูจนกลอนหลุด และเข้าไปจับ นายสมบูรณ์ หงายหน้ามาก็พบว่าหน้าซีดคล้ำไม่มีลมหายใจแล้วจึงรีบโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว
สอบถาม น.ส.พนิดา พุ่มมา อายุ 34 ปี ผู้เป็นภรรยาของ นายสมบูรณ์ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายทำงานเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน ที่ทำการอำเภอพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ปกติสามีเป็นคนดี นิสัยดี มีน้ำใจแต่มักจะติดเหล้าขาวและดื่มหนักเป็นประจำ เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะอาเจียนเป็นเลือด มีอาการมือสั่น และไปส่องกล้องที่โรงพยาบาลล่าสุด หมอบอกว่ามีอาการของโรคตับแข็ง และติดเหล้าเรื้อรัง โดยแม่ของผู้ตายยังเคยบอกว่า ทำใจไว้แล้วถ้าผู้ตายจะเสียชีวิตเพราะการติดเหล้า และเมื่อตอนเช้าก่อนตนจะไปทำงาน ได้ถามผู้ตายว่ากินอะไรหรือยัง ผู้ตายตอบว่ากินแล้วแต่ฟังไม่ชัดคล้ายคนลิ้นแข็ง ตนจึงวางกับข้าวไว้ให้และไปทำงาน จนเวลา 11.00 น. รู้สึกเป็นห่วงผู้ตาย ได้โทรเข้าเครื่องของผู้ตายแต่ไม่มีใครรับสาย จนตนกลับมาจากทำงานพบว่าผู้ตายนอนเสียชีวิตในห้องน้ำแล้ว
แพทย์ได้ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้วแจ้งกับญาติผู้เสียชีวิตว่า ขอนำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่นอนอีกครั้ง
กชกร พวยไพบูลย์
ผู้สื่อข่าว จ.สิงห์บุรี