วันทึ่ 8 ธ.ค.62 เวลา 12.00 น. ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จ.มุกดาหาร บก.ตม.4,พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.สตึก,พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ทิพย์ธนาวิวัฒ รอง.ผกก.ตม.จ.มุกดาหาร บก.ตม.4,พ.ต.ท.ยศวัฒน์ มณีวงษ์ชัยกิจ รอง ผกก.สส.สภ.สตึก,พ.ต.ท.ยศพร มาศรีนวล และ พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก สว.ตม.จ.มุกดาหาร บก.ตม.4
โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง และ เจ้าหน้าที่ สภ.สตึก ได้ทำการจับกุม นายสิทธิไช หรือทิด ไชยะมาศ (MR.SITTHIXAY XAYAMATH) อายุ 27 ปี สัญชาติลาว ถือหนังสือบัตรผ่านแดนชั่วคราว เลขที่ 2945 และ หนังสือเดินทาง สปป.ลาว เลขที่ PA 0031161 ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.396/2561 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ในข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
โดยจับกุม ได้บริเวณจุดตรวจบุคคลและพาหนะ สะพานมิตรภาพ 2 (ขาเข้า) ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จ.มุกดาหาร ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตั้งจุดตรวจบุคคลและพาหนะบริเวณ (ขาเข้า) เพื่อตรวจสอบสัมภาระและยานพาหนะและบุคคลที่ต้องสงสัย จากการตรวจสอบและสังเกตุการณ์ได้พบบุคคลมีลักษณะคล้ายบุคคลที่มีหมายจับของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.มุกดาหาร เพื่อขอตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ปรากฏว่านายสิทธิไช ไชยะมาศ (ทราบชื่อภายหลัง) ได้นำหนังสือบัตรผ่านแดนชั่วคราว เลขที่ 2945 พร้อมหนังสือเดินทาง สปป.ลาว เลขที่ PA 0031161 มาแสดง
ต่อมาจึงได้เชิญตัว นายสิทธิไช ไชยะมาศ มายังที่ทำการงานสืบสวนปราบปราม ตม.จ.มุกดาหาร เพื่อตรวจสอบข้อมูลหมายจับโดยละเอียดและประสานกับหน่วยงานเจ้าของคดี จากการตรวจสอบพบว่าผู้ถูกจับเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.396/2561 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ดังกล่าวข้างต้นจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับ อ่านให้ฟังและให้ผู้ถูกจับตรวจดูข้อความในหมายจับดังกล่าวข้างต้นจนเป็นที่เข้าใจแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ ผู้ถูกจับได้รับทราบสิทธิและข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ถูกจับให้การรับว่าตนเป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับที่เจ้าหน้าที่ได้แสดงต่อหน้าในขณะนั้นจริง และไม่เคยถูกดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกจับกุมและควบคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.สตึก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน