วันนี้ วันอังคารที่ 3 ธ.ค.62 เวลา 10.00 น.ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด. ปฏิบัติราชการ สตม.,พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4,พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม.5,พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 ปฏิบัติราชการ สตม.,พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 ปฏิบัติราชการ สตม.,พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการ สตม.,พ.ต.อ.สมพงษ์ มั่นหมาย ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ทล. ปฏิบัติราชการ สตม.,พ.ต.อ.
กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.กก.2 บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน ผกก.กก.4 บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา รอง ผกก.กก.4 บก.สส.สตม.
ชุดจับกุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตม.จ.สงขลา,ตม.จ.ร้อยเอ็ด,ตม.จ.ชัยภูมิ,กก.2 บก.สส.สตม.,กก.4 บก.สส.สตม. และ ชุด ศปชก.สตม. ร่วมแถลงข่าวผลการติดตามจับกุมเครือข่ายชาวจีนนำหลักฐานเท็จยื่นสวมทำบัตรประชาชนไทยและหนังสือเดินทางประเทศไทย พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2562 ตม.จ.สงขลา ได้จับกุมตัวชาย ไม่ทราบชื่อ -นามสกุล ไม่ทราบสัญชาติ อ้างตัวชื่อนายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พร้อมหนังสือเดินทางประเทศไทย โดยกล่าวหาว่า “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ตาม ป.อาญา ม.264, 265, 268
ก่อนเกิดเหตุนายหลินฯได้เดินทางออกจากประเทศจีนมาทำธุรกิจที่ประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นเวลานานจนหนังสือเดินทางหมดอายุ ต่อมาได้มีกลุ่มขบวนการนายหน้า สัญชาติจีน ได้ประกาศโฆษณาทางแอพพลิเคชั่นวีแชท (WeChat) ว่า สามารถทำบัตรประชาชนและหนังสือเดินทางไทยของจริงได้ภายในเวลา 10 วัน จนนายหลินฯ หลงเชื่อ และจ่ายเงินจำนวน 3 แสนหยวน (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) ต่อมา นายหลินฯ ได้หลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติโดยมีขบวนการดังกล่าวให้การช่วยเหลือ หลังจากนั้นกลุ่มนายหน้าชาวจีนจึงว่าจ้างกลุ่มนายหน้าคนไทยซึ่งทำหน้าที่หาข้อมูลคนไทยที่ไม่เคยมีบัตรประชาชนหรือคนไทยที่สาบสูญ พาไปทำบัตรประชาชน โดยวิธีการสร้างหลักฐานเท็จและใช้ผู้รับรองอันเป็นเท็จ
จนเจ้าหน้าที่หลงเชื่อออกเอกสารบัตรประชาชนและหนังสือเดินทางไทยให้ เมื่อได้รับหนังสือเดินทางเรียบร้อยแล้ว นายหลินฯ พยายามใช้หนังสือเดินทางไทยที่เพิ่งได้รับมาเดินทางออกทางด่าน ตม.สะเดา แต่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพบข้อพิรุธคือ ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ จึงใช้ระบบไบโอเมตริกส์ (Biometrics) สืบค้นข้อมูลพบว่า นายหลินฯ เคยและใช้หนังสือเดินทางจีนอีกเล่มหนึ่งเดินทางเข้า – ออก ประเทศไทยเมื่อปี 2557 จนเป็นเหตุไปสู่การจับกุมขยายผลเครือข่ายขบวนการดังกล่าว ได้ทั้งหมด 7 คน เป็นคนสัญชาติจีน 3 คน และคนไทย 4 คน เบื้องต้นชุดสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเครือข่ายทั้งหมดในข้อหา “ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้นพ้นจากการจับกุม” รวมไปถึงร้องทุกข์กล่าวโทษความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯ การจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในท้องที่ที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ชุดสืบสวนฯ สตม. ยังคงขยายผลหาเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดในระดับสั่งการเพื่อติดตามจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทย และสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และมีการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน