ตำรวจสหรัฐฯ คุมตัวอดีตพระ “เณรคำ” ขึ้นศาลที่เมืองริเวอร์ไซด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย นัดแรก ถูกตีตรวนที่ข้อเท้า พร้อมใส่กุญแจมือ มีสีหน้าเศร้าหมอง ทนายเตรียมอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยื่นขอประกันตัว ศาลไม่อนุญาต แต่พร้อมพิจารณาใหม่นัดหน้า
จากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา แจ้งความคืบหน้าการดำเนินคดี นายวีรพล สุขผล หรือ อดีตพระเณรคำ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาสามารถจับตัวอดีตเณรคำไว้ได้แล้ว และกำลังประสานขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังประเทศไทย หลังจากหลบหนีคดีมากบดานอยู่ที่สหรัฐอเมริกา นานกว่า 3 ปี โดยความสำเร็จนี้ เกิดขึ้นจากการประสานงานระหว่าง สำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่จากทางสหรัฐอเมริกา
ต่อมาเมื่อวานนี้ วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลา 10.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่นแคลิฟอร์เนีย) ที่ตึก George E.Brown Jr.Federal Building and United States Courthouse…เลขที่ 3470 12 th St.. เมืองริเวอร์ไซด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้มีการพิจารณาคดีนายวีรพล นัดแรก ท่ามกลางญาติโยม ศิษยานุศิษย์ และพระภิกษุสงฆ์ชาวไทย ชาวลาว เข้าร่วมฟังการพิจารณาประมาณ 30 คน ในจำนวนนี้มีพระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาจากรัฐฟลอริดาด้วย
ในการพิจารณาคดีนัดแรกในครั้งนี้ อดีตเณรคำ ถูกควบคุมตัวจากเรือนจำชั่วคราว เมืองริเวอร์ไซด์ ซึ่งอยู่ห่างจากนครลอสแองเจลิส ราว 65 ไมล์ ไปทางทิศตะวันออก โดยมาในชุดนักโทษเสื้อและกางเกงสีส้ม ถูกตีตรวนที่ข้อเท้าและใส่กุญแจมือ มีสีหน้าเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ทนายความได้นำหลักประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเตรียมมาประกันตัว
การพิจารณาคดีใช้เวลาครึ่งชั่วโมง โดยผู้พิพากษาได้แจ้งให้อดีตเณรคำได้รับทราบว่า โดนคดีอะไรบ้างที่ทางการประเทศไทยได้แจ้งมาทั้ง 8 ข้อหา ซึ่งทั้งหมดนี้ มีคดีชำเราเด็กหญิงและพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็นคดีอาญา นับเป็นข้อหาที่หนักที่สุด แต่ทั้งนี้ ทุกข้อหาจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียด จากข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมที่ทางเมืองไทยจะส่งมาให้ทางศาลสหรัฐอเมริกา จึงขอให้มีการพิจารณาคดีนี้ต่อในครั้งหน้า
สำหรับการพิจารณาคดีนัดแรกในครั้งนี้ ทางผู้พิพากษาไม่อนุญาตให้มีการประกันตัว และขอดูหลักฐานที่ถูกกล่าวหาให้มากกว่านี้ และจะมีการพิจารณาการประกันตัวในนัดหน้าอีกครั้ง ซึ่งวันเวลายังไม่มีการกำหนด
สำหรับความผิดที่อดีตพระเณรคำได้ก่อคดีไว้ จนทำให้ต้องหลบหนีไปอยู่ยังสหรัฐอเมริกา พบว่า คดีที่เกิดขึ้นอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ประกอบด้วย 8 คดี คือ
1. การใช้สื่อสารสนเทศลงโฆษณาอันเป็นเท็จ ซึ่งน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณชนถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์มาตรา 14 เกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เนื่องจากอ้างว่าได้เข้าเฝ้าพระอินทร์ สั่งให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ ดีเอสไอของไทยวิเคราะห์แล้ว เห็นว่าความผิดสำเร็จแล้ว
2. กรณีการกระทำชำเราเด็กหญิงและพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็นความผิดอาญา มาตรา 277 และ 317 วรรคสาม
3. กรณีที่พระเณรคำกับพวก มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีรถหรู ซึ่งเบื้องต้นพบรถต้องสงสัย 9 คัน ทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู มินิคูเปอร์ นิสสันฟิกาโร ซึ่งน่าจะนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และรถเบนซ์อีกจำนวนหนึ่งที่ซื้อใน จ.อุบลราชธานี
4. กรณียาเสพติดให้โทษ
5. การแสดงและใช้วุฒิการศึกษาเท็จว่าจบดอกเตอร์ จากมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. สถาบันอุดมศึกษา
6. คดีฆ่าคนตายโดยประมาทจากการขับรถชนคนตาย
7. ความผิดฐานฟอกเงินกรณีการเบียดบังเงินบริจาคไปซื้อทรัพย์สินและการนำเงินไปฝากในต่างประเทศ และ
8. การอวดอุตริ อภินิหาร…