วันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย.62 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม.: พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.วัชรพล กาญจนกันทร ผกก.1 บก.สส.สตม.ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุม 2 คดีสำคัญ ดังนี้ รายที่ 1 จับหนุ่มอเมริกันละเมิดทางเพศตามหมายจับ U.S.A.
โดยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.นำโดย พ.ต.อ.วัชรพล กาญจนกันทร ผกก.1 บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ,พ.ต.ท.เทวกฤต มณีรัตน์ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม.,พ.ต.ต.วิชัย สังข์สอน,พ.ต.ต.จักรพล นาคแสง สว.กก.1 บก.สส.สตม.,ร.ต.อ.สุภสิทธิ์ ไวเกษตรกรณ์ รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุม นายโจเซฟ (MR.JOSEPH) อายุ 26 ปี สัญชาติอเมริกัน ถือหนังสือเดินทางสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการสหรัฐอเมริกาต้องการตัวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาติภูมิสหรัฐอเมริกา (DHS) สำนักงานสืบสวนความมั่นคงมาตุภูมิ (HSI) กรุงเทพฯ มีหนังสือถึง สตม. ขอให้ค้นหาและจับกุม นายโจเซฟฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการสหรัฐอเมริกา ข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำร้ายทางเพศเด็ก และประพฤติผิดทางเพศ กับผู้เยาว์ โดยมีที่มาของคดีคือในเดือนสิงหาคม 2562 ตำรวจท้องที่ในรัฐแอลิโซน่าได้รับแจ้งความจากเด็กหญิงอายุ 14 ปี ว่าเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 นายโจเซฟฯ ซึ่งเป็นพี่ชายของตนเองได้เข้าไปในห้องนอนของเธอ ในขณะที่เธอหลับอยู่ แล้วคลานขึ้นบนเตียงและใช้มือสัมผัสหน้าอกพร้อมกับลูบไล้และถูช่องคลอดของเธอ
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายโจเซฟฯ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ประเภทวีซ่า คนอยู่ชั่วคราว (NON-90) ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 และได้ไปเป็นนักบวชที่ชุมชนนักบุญแห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี ผบก.สส.สตม. พิจารณาแล้วเห็นว่านายโจเซฟฯ มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมและเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และจากการไปตรวจสอบของ กก.1 บก.สส.สตม. พบนายโจเซฟฯ พักอาศัยและเข้ามาเป็นนักบุญบวชในชุมชนดังกล่าวจริง จึงได้ควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อรอการผลักดันส่งกลับไปยังสหรัฐอเมริกาต่อไป
ส่วนรายที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.รวบหนุ่มเกาหลีอยู่เกินตกอับตระเวนลักทรัพย์ตาม HOSTEL ใจกลางกรุงมากกว่า 10 แห่ง โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.อ.วัชรพล กาญจนกันทร ผกก.1 บก.สส.สตม.,พ.ต.ท.พีรภัทร์ ปรมพุฒิ,พ.ต.ท.เทวกฤต มณีรัตน์ รอง ผกก.1 บก.สส.สตม.,พ.ต.ต.วิชัย สังข์สอน,พ.ต.ต.จักรพล นาคแสง สว.กก.
1 บก.สส.สตม.,ร.ต.อ.สุภสิทธิ์ ไวเกษตรกรณ์ รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม.พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุม นายคิม (MR.KIM) อายุ 30 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ถือหนังสือเดินทางประเทศเกาหลีใต้
พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย กระเป๋าสะพายหลังสีเทายี่ห้อ EASTPAK 1 ใบ,ประแจแหวนข้างปากตายเบอร์ 14 จำนวน 2 ตัว,ถุงสีครีมลายดอกไม้สีแดง 1 ใบ,เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ 195 ดอลลาร์,เงินสกุลรูเปียร์ 424,000 รูเปียร์,เงินสกุลดอง 73,000 ดอง,เงินสกุลริงกิต 13 ริงกิต,เงินดอลลาร์สิงคโปร์ 6 ดอลลาร์,เงินสกุลเรียลกัมพูชา 3,000 เรียล,เงินสกุลปอนด์ 5 ปอนด์ และเงินสกุลหยวน 1 หยวน โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และลักทรัพย์โดยทำอันตราย สิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ” นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากโรงแรมแห่งหนึ่งว่ามีลูกค้าเป็นคนสัญชาติเกาหลีใต้มีพฤติกรรมเข้ามาลักทรัพย์ภายในโรงแรม จึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังโรงแรมต่าง ๆ ให้เฝ้าระวัง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า นายคิม (MR.KIM) ผู้ต้องหา ได้เข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านสัมพันธวงศ์ จึงได้ไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม และพบผู้ต้องหาซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามที่ได้รับแจ้งเดินลงมาบริเวณชั้น 1 พร้อมกระเป๋าสะพายหลังสีเทายี่ห้อ EASTPAK จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยถึงวันที่ 27 กันยายน 2559 การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด เป็นเวลา 3 ปี 26 วัน และจากการตรวจค้นกระเป๋าสะพายหลังพบของกลางดังกล่าวข้างต้น จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่าได้เข้ามาพักในโรงแรมที่เกิดเหตุ ห้อง 502 และได้นำประแจงัดแม่กุญแจที่ผู้เสียหายคล้องล็อคไว้ที่ช่องเก็บของส่วนตัวใต้เตียงนอนพักห้องเดียวกันออก แล้วดึงกระเป๋าสะพายหลังของผู้เสียหายออกมาแล้วล้วงเข้าไปลักถุงสีครีมลายดอกไม้สีแดงซึ่งภายในมีธนบัตรซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียหาย โดยต่อมามีหญิงสัญชาติอังกฤษมาแสดงตัวเป็นผู้เสียหายและ ยืนยันว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเอง ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ ดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อไป
อนึ่ง ผู้ต้องหาให้การว่าได้ตระเวนลักทรัพย์ในลักษณะเดียวกันนี้ในกรุงเทพมหานคร อีกไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ดังนั้น หากมีผู้เสียหายหรือโรงแรมแห่งใดเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวและสงสัยว่าผู้ต้องหาก่อเหตุจะเป็นคนเดียวกันกับ นายคิม (MR.KIM) หรือไม่ ขอให้ติดต่อขอดูภาพถ่ายนายคิม (MR.KIM) ได้ที่พนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ ตลอดเวลา
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน