ร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พร้อมด้วย พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และ คณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ตรวจเยี่ยมพบประประชาชน พร้อมรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ณ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ซึ่งมีประชาชน และเกษตรกรจำนวนมาก เดินทางมาร้องเรียน ขอให้ ทางกระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ให้กับเกษตรกร
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรรมนัสฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งการ ให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มีคำสั่งไปยังที่ส.ป.ก.จ.กระบี่ เพื่อให้นายทุนที่ครอบครองที่ดินส.ป.ก.ทำสวนปาล์มน้ำมัน ระงับการเก็บเกี่ยวผลผลิตในที่ดินทันทีพร้อมกับส่งทีมกฎหมายจากส่วนกลาง ลงพื้นที่ร่วมบูรณาการกับผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติการเร่งรัดเข้าฟ้องขับไล่ยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 1 หมื่นไร่ นำมาจัดสรรให้เกษตรกร และผู้ยากไร้ ที่เป็นคนในพื้นที่จริง ๆ ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)ไม่ใช่นอมินีของบริษัท เพราะที่ผ่านมานายทุนได้ให้นอมินี ที่เป็นชาวบ้านจากพื้นที่อื่นเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่สวนปาล์มโดยนายทุนยังมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มออกจำหน่าย เมื่อเจ้าหน้าที่จะเข้าไปจัดสรรพื้นที่ ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้เนื่องจากได้รับการต่อต้านจากกลุ่มนายทุนและชาวบ้านที่เป็นนอมินี
ทั้งนี้ ตน ได้ทำความเข้าใจกับเกษตรกร ในพื้นที่ ที่เดินทางมาร้องเรียน ในปัญหาที่ดินทำกิน ในพื้นที่โดยแจ้งว่าที่ผ่านมาทางกระทรวงเกษตรฯ มีความพยายามจะเร่งรัดในการ จัดการปัญหาการถือครองที่ดิน สปก. ผิดกฎหมาย ให้เร็วที่สุด โดย ขบวนการจัดสรรทิ่ดินให้กับเกษตรกรนั้นนอกจากการจัดสรรที่ดินทำกินให้แล้ว ยังจะมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ที่ยังขาดแคลนที่พักอาศัย ซึ่งเบื้องต้นได้ประสานงานกับทาง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงคงของมนุษย์ เพื่อ สร้างที่พักอาศัย ให้กับเกษตรกรผู้อยากไร้ ให้มีที่พักพิง และวางระบบสาธารณูปโภค รวมทั้ง ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรฯ เพื่อให้เกษตรกร สามารถ ทำการเกษตร อย่างยั่งยืน มากขึ้น
อย่างไรก็ตามในส่วนพื้นที่ สวนปาล์ม ที่เป็นพื้นที่ สปก.หากมีเกษตรกรรายใดที่เข้าไปครอบครองโดยผิดกฏหมาย โดยเข้าไปยึดครองหลังจากที่เอกชน หมดสัญญา สัมปทาน ขอให้ออกจากพื้นที่ เพื่อเข้าสู่ขบวนการ จัดสรรตามกฎหมายโดย เกษตรกรสามารถ แจ้งความประสงค์ ต่อเจ้าหน้าที่โดยให้เป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณา ของทาง สปก. อย่างเคร่งครัด โดยผู้ที่จะได้รับการพิจารณาจัดสรรที่ดินทำกินจะต้องเป็นเกษตรกร ที่ขาดแคลนที่ดินทำกินและมีคุณสมบัติเป็นเกษตรจริงเท่านั้น
“สวนปาล์ม ที่มีอยู่ผมมีความจำเป็นต้องยึดคืนก่อน และพี่น้องไปขึ้นทะเบียนนะครับ ขึ้นทะเบียนแล้วเมื่อเข้าสู่ระบบ แล้วผมรับปากพี่น้องว่าภายใน180 วันถ้าไม่สามารถ จัดสรรที่ดินให้กับพี่น้องเกษตรกรอย่างชัดเจนตามข้อกำหนดผมจะพิจารณาโยกย้ายเจ้าหน้าที่ สปก. ในพื้นที่ทันที“ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน