ตามที่ปรากฏข่าวอ้างคำสัมภาษณ์ของท่านชวน หลีกภัยว่าเรื่องการสอบสวนเลขาธิการสภาทำไมล่าช้า ว่าได้สอบถามฝ่ายตรวจสอบแล้วปรากฏว่านายวัชระผู้ร้องไม่ยอมมาให้ข้อเท็จจริง
แต่กลับมีการยื่นคัดค้านกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะไม่เชื่อว่าจะให้ความเป็นธรรมได้นั้น
เป็นข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างยิ่ง
ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผมและท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก
เพราะความจริงนั้นผมได้ไปให้ขัอเท็จจริงกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภาเป็นประธาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2562
เวลา 10.15 น.ที่อาคารสุขประพฤติโดยมีพยานคือนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการปปช.สภาผู้แทนราษฎรเป็นพยานและเป็นผู้ให้การกล่าวโทษนายสรศักดิ์ เพียรเวช เพิ่มเติมอีกด้วย
ผมได้ให้การยืนยันความผิดของนายสรศักดิ์และส่งพยานเอกสารการคุกคามทางเพศของนายสรศักดิ์ เพียรเวชที่กระทำต่อข้าราชการสุภาพสตรีซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายสรศักดิ์เพิ่มเติมต่อนายนัฑ ผาสุขและคัดค้านกรรมการสืบสวนอย่างมีเหตุผลและเอกสารของทางราชการรองรับว่ากก.ทุกคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน มีส่วนได้ส่วนเสียกับนายสรศักดิ์และได้ส่งพยานหลักฐานเอกสารของทางราชการที่ระบุชื่อกรรมการแต่ละคนตั้งแต่นายนัฑ ผาสุขว่าเกี่ยวพันกับนายสรศักดิ์อย่างไรให้เอกสารกับมือของกรรมการทุกคนเป็นรายบุคคลครบทั้งคณะ
ผมมีพยาน2คนเข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานตลอดจนจบคำให้การในประเด็นของการคุกคามทางเพศครบทุกถ้อยกระบวนความให้กรรมการได้เห็นและชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎของก.ร.ได้ทันที
และได้ขอให้ทบทวนกรรมการชุดนี้เพราะจะเกิดความไม่เที่ยงธรรมดังเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว
การที่ฝ่ายตรวจสอบรายงานท่านชวนว่าผมไม่ยอมไปให้ข้อเท็จจริงจึงเป็นความเท็จอย่างสิ้นเชิง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผมและท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรผู้ให้ข่าวได้
เพื่อให้ปรากฎชัดผมจึงขอส่งภาพการให้การของผมและท่านวิลาศในคณะกรรมการสืบสวนชุดนายนัฑเป็นประธานเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนให้เห็นกับตามา ณ โอกาสนี้และขอให้ตั้งกรรมการสอบคนรายงานเท็จต่อท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยด่วนที่สุดต่อไป
พวกเขากล้าแม้กระทั่งรายงานเท็จต่อท่านชวน หลีกภัย
น่ากลัวจริงๆข้าราชการบางคนในยุคสมัยนี้