กระทรวงพาณิชย์ เผย พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ พร้อมขยายความคุ้มครองไปยังเครื่องหมายเสียง
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้ โดยได้ขยายการให้ความคุ้มครองไปยังเครื่องหมายเสียง เพื่อให้สามารถรับจดทะเบียนเสียงเป็นเครื่องหมายการค้าได้ เช่น เสียงดนตรีจากการขายไอศกรีม, เสียงเริ่มต้นรายการโทรทัศน์, เสียงเริ่มต้นรายการข่าว เป็นต้น ทั้งนี้ได้กำหนดบทลงโทษสำหรับการนำหีบห่อหรือภาชนะที่แสดงเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้มาใช้สำหรับสินค้าของตนเอง หรือบุคคลอื่น เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และไม่สามารถยอมความได้ ถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ให้ได้รับอันตรายจากการบริโภคสินค้าปลอม และคุ้มครองเจ้าของเครื่องหมายการค้าไม่ให้ถูกละเมิด จากเดิมที่การเอาผิดจะใช้กฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยอมความได้ โดยสำหรับการเพิ่มโทษดังกล่าว เนื่องจากมักมีพ่อค้าหัวใสนำหีบห่อหรือภาชนะสินค้าที่มีแบรนด์มาบรรจุสินค้าปลอม ไม่มีมาตรฐาน และไม่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค โดยสินค้าที่พบการละเมิดลักษณะนี้มากที่สุด คือ เหล้า และไวน์แบรนด์ดัง
นอกจากนี้ ยังลดขั้นตอนการวินิจฉัยอุทธรณ์จาก 90 วันเหลือ 60 วัน และการปรับปรุงค่าธรรมเนียมท้ายพ.ร.บ. ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยปรับค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวทุกรายการ เช่น ค่าธรรมเนียมคำคัดค้านเดิมฉบับละ 1,000 บาท เป็นฉบับละ 2,000 บาท รวมถึงเพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าภายใต้พิธีสารมาดริด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกไทยในการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่กรมฯเพียงที่เดียวแต่ได้รับความคุ้มครองใน 97 ประเทศสมาชิก