วันอังคารที่ 19 พ.ย.62 เวลา 10.30 น.ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผบก.อก.สตม.,พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม 5,พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน ร่วมแถลงข่าว ดังนี้
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.62 เวลาประมาณ 15.00 น. ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน กองบังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้รับการประสานจากชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ว่ามีผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ จะลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่ตอนกลางของประเทศไทย โดยจะใช้เส้นทางจาก อ.แม่สาย ผ่าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5,สภ.เชียงแสน,ตชด.,หน่วยทหารพรานและฝ่ายปกครอง โดยร่วมกันวางแผนตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดเพื่อตรวจค้นสกัดกั้นรถเป้าหมาย ณ บริเวณเส้นทางรอง บ้านถ่อน–บ้านป่าสักน้อย ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
จนกระทั่งเวลา ประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 6 ต.ค.62 ได้พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กทม.ขับมาจาก อ.แม่สาย มุ่งหน้าไปทางตู้ยามป่าสักน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้ให้สัญญาณเพื่อหยุดรถ ทำการตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องฝ่าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตามคนร้ายไปตามถนนสายบ้านป่าถ่อน–บ้านป่าสักน้อย จนมาถึงบริเวณบ้านป่าสักน้อย หมู่ที่ 3 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจยิงไปที่ล้อรถของคนร้ายเพื่อสกัดกั้นการหลบหนี จนรถยนต์ของคนร้ายได้เสียหลักไถลลงข้างทาง และคนร้ายได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้
เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเทา ตรวจสอบภายในรถพบกระสอบป่านสีรุ้ง จำนวน 11 กระสอบ บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 3,035,200 เม็ด และไอซ์ จำนวนประมาณ 40 กก. จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดรถยนต์และยาเสพติดเป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อดำเนินการตรวจสอบและทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม
ต่อมาวันที่ 16 ต.ค.62 พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อออกหมายจับ นายประสาร สัญชาติไทย อายุ 29 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 1276/2562 ลง16 ต.ค.62 ในความผิดฐาน ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธแอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป และได้ส่งสำเนาหมายจับมาให้เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนติดตามจับกุมตัว
ด่าน ตม.เชียงแสน ได้ประสานกับ ตม.จ.กาญจนบุรี และ สภ.ลาดหญ้า เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวนายประสารฯ ตามหมายจับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 เวลา 15.00 น. จนท.ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบตัวนายประสารฯ มาเที่ยวกับเพื่อนอยู่ที่บริเวณศาลาชายน้ำของรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงได้ร่วมวางแผนและทำการจับกุมตัวนายประสารฯ นำตัวส่งให้กับ พงส.สภ.ลาดหญ้า เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้กับ พงส.สภ.เชียงแสน รับตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใดๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน