เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ก.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่หลายกลุ่มแสดงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ไม่มีหลายกลุ่ม เท่าที่ทราบเป็นเรื่องส่วนตัว จะเหมารวมเป็นเรื่องของกลุ่มและพรรคพวกไม่ได้ รวมทั้งจะไปแนะนำบุคคลอื่นให้คิดคล้อยตามตนเองก็ไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าคิดเองคนเดียวก็คิดไป ทั้งนี้ การแสดงจุดยืนของนายอภิสิทธิ์เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่มองว่าคนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อาจเห็นคล้อยตามแนวคิดนายอภิสิทธิ์นั้น ตนคิดว่าจะมีคนรักพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่ได้คิดแบบนายอภิสิทธิ์ทั้งหมด เพราะเรื่องเหล่านี้ไปบังคับใครไม่ได้
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่นายอภิสิทธิ์เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่างรัฐธรรมนูญเองนั้น เรื่องนี้ต้องไปถามนายกฯ จะมาถามตนไม่ได้ หากนายกฯว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่าในวันที่ 7 สิงหาคม จะไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติที่หน่วยออกเสียงประชามติแถวบ้านพักย่านลาดพร้าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ทหารควบคุมตัวน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมพวก 11 คน ไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 ต้องขึ้นศาลทหาร หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า “แล้วเขาผิดอะไร ที่ผ่านมามีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษใช่ไหม ว่าเขาผิดมาตรา 116 ดังนั้น ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ตอนนี้ใช้อำนาจคสช.ควบคุมตัวก่อน 7 วัน โดยจะมีการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นคดีความ
ส่วนที่มองว่าทางเจ้าหน้าที่รัฐจ้องจัดการกับตระกูลดังใน จ.เชียงใหม่ หรือไม่ รองนายกฯประวิตร ยันว่า ไม่ใช่ และไม่ได้ไปจัดการใคร ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน เพราะการดำเนินการมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหาร ร่วมกันดำเนินการ และขอย้ำว่าทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า กรณีนี้เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ใครผิดว่าไปตามผิด และใครจะไปทราบว่ามีเหตุเกิดที่จ.เชียงใหม่ เพราะไม่มีใครคิด ถ้าใครทำอะไร ถ้าจับได้ก็ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร หรือจังหวัดใด เพราะทุกฝ่ายต้องดูแลร่วมกันทุกพื้นที่
เมื่อถามอีกว่าได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับนายกฯ ช่วงโค้งสุดท้ายประชามติ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้มีการประเมิน เพราะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เนื่องจากคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าช่วงนี้เป็นเวลาของคสช.
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน เพราะอยากให้คสช.อยู่ต่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ทราบ เพราะเรื่องนี้มองได้หลายแบบ และมีหลายคนก็คิดแบบนี้ แต่บางคนอยากให้มีการเลือกตั้งเร็ว อย่างไรก็ตาม ประชาชนอยากได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด ส่วนจะดีหรือไม่ดี ช่วงนี้อยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน คงจำเป็นต้องใช้บทเฉพาะกาล 5 ปี เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบ เป็นไปตามที่นายฯวางรากฐานไว้”